fbpx

6 วิธีตีกอล์ฟให้ไกล เพิ่มระยะไดรเวอร์

กอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เพราะเป็นกีฬาที่ท้าทายความสามารถ ที่สำคัญยังสามารถเล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเล่นกับเพื่อนๆ เพื่อกระชับมิตร หรือเล่นคนเดียว ก็สามารถสนุกได้เช่นกัน

ในการกีฬากอล์ฟนั้นมีหลักในการเล่นค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจับกริพ หรือการจัดระเบียบร่างกายในส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้มีวงสวิงที่สวยงาม ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเล่นกอล์ฟ คือ การตีลูกกอล์ฟให้ได้ไกลมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำแต้ม และเพิ่มความเข้มข้นของเกม รวมไปถึง ยังช่วยให้ตีช็อตต่อไปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งวิธีตีกอล์ฟให้ไกลจะต้องใช้ปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้วงสวิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด  โดยเทคนิควิธีตีกอล์ฟให้ไกลในบทความนี้จะช่วยเพิ่มระยะของลูกให้กับนักกอล์ฟทุกคนได้

วิธีตีกอล์ฟให้ไกลต้องพื้นฐานแน่น จัดระเบียบร่างกายให้ถูกต้อง

1.วิธีตีกอล์ฟให้ไกลต้องพื้นฐานแน่น จัดระเบียบร่างกายให้ถูกต้อง

วิธีตีกอล์ฟให้ไกลต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง การมีพื้นฐานที่แน่น จัดระเบียบท่าทางในการตีกอล์ฟได้ถูกต้อง ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นักกอล์ฟที่ดีควรมี หากต้องการตีกอล์ฟให้ได้ระยะไกล ควรเริ่มฝึกตีกอล์ฟเบื้องต้นตั้งแต่การจับกริพให้ถูกต้อง และการจัดระเบียบร่างกายในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ท่าทางการยืน การวางเท้า หรือแม้กระทั่ง การบิดสะโพก เพื่อเพิ่มแรงส่งให้ได้วงสวิงที่ดี

จับไม้กริพให้ถูก

จับไม้กริพให้ถูก

องค์ประกอบของไม้กอล์ฟสามารถแบ่งแบบง่ายๆ ได้ 3 ส่วน คือ กริพ ก้านไม้ และหัวไม้ เวลาจับไม้ เราจะจับในส่วนที่เรียกว่า กริพ ซึ่งส่วนนี้เป็นยางอยู่บนสุดของไม้ วิธีตีกอล์ฟให้ไกลขึ้นควรจับแบบสตรองกริพ ที่มือซ้ายคว่ำมือขวาหงายเล็กน้อย เพื่อช่วยให้หน้าไม้ปะทะลูกในลักษณะที่ปิดมากขึ้น วิถีลูกกอล์ฟจะตรง และในจังหวะที่ปล่อย จะช่วยเพิ่มความเร็วของหัวไม้และความเร็วของลูกกอล์ฟได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ เทคนิคการจับกริพให้เบามือยังเป็นอีกหนึ่งวิธีตีกอล์ฟให้ไกล โดยผู้เล่นจะต้องจับกริพให้เบามือ แต่ก็ต้องแน่นมากพอที่จะประคองไม้ไม่ให้หลุดมือ หากจับกริพแน่นจนเกินไปจะทำให้แรงเหวี่ยงที่มีถูกควบคุมด้วยมือ ส่งผลให้แรงสวิงถูกจำกัด แทนที่จะได้ปล่อยไปตามแรงเหวี่ยงได้อย่างเต็มที่ ยิ่งบีบกริพแรงความเร็วในการเข้าอิมแพกต์ก็ยิ่งลดลง จากการทดลองนั้น พบว่าแรงบีบกริพที่พอดีกับแรงบีบกริฟที่แรงเกินไป อาจทำให้ความเร็วหัวไม้ต่างกันประมาณ 5 ไมล์ต่อชั่วโมง (MPH) เมื่อแปลงเป็นระยะทางจะต่างกันถึง 22 หลา

จัดระเบียบร่างกายให้ดี

จัดระเบียบร่างกายให้ดี

วิธีตีกอล์ฟให้ไกลจำเป็นที่จะต้องจัดระเบียบร่างกายในส่วนต่างๆ ให้ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้มีวงสวิงที่สวยงามแล้ว ยังช่วยส่งพลังไปยังไม้ ช่วยให้การตีมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

• ยื่นในท่าทางที่ถูกต้อง

ท่าทางการยืนเป็นพื้นฐานของวิธีตีกอล์ฟให้ไกลที่สำคัญ เพราะส่งผลต่อการสวิง หากควบคุมแกนกลางลำตัวได้ดี ก็จะช่วยถ่ายเทน้ำหนักไปที่ไม้กอล์ฟได้อย่างเต็มที่ ซึ่งท่ายืนที่ถูกต้อง คือ หลังต้องตรงตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงก้นกบ เชิดคางขึ้นเล็กน้อย วางเท้าให้กว้างประมาณหัวไหล่และถ่ายเทน้ำหนักไปยังส้นเท้า

• ความเร็วในการบิดสะโพก

โดยปกติแล้วนักกอล์ฟ LPG Tour จะมีความเร็วในการบิดสะโพกอยู่ที่ราวๆ 420 – 510 องศาต่อวินาที ทำให้นักกอล์ฟเหล่านั้นตีได้ระยะที่ไกลขึ้น แต่การจะมีความเร็วในการบิดสะโพกนั้น ต้องอาศัยร่างกายที่มีความแข็งแรงเช่นกัน โดยการฝึก 360 Jump หรือ ท่ากระโดดแล้วหมุนรอบตัวกลางอากาศ 360 องศา และกลับมายืนในท่าเดิม เป็นท่าที่ช่วยฝึกให้บิดสะโพกได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้ตีกอล์ฟได้ไกล

• ท่าทางของแขนและมือถูกต้อง

การสร้างวงสวิงที่ดีต้องอาศัยการทำงานของทั้งแขนขวาและแขนซ้าย โดยใช้แขนซ้ายเป็นตัวควบคุมแนวสวิง ส่วนแขนขวาให้พลังในการตี เพื่อให้ได้แรงและจังหวะที่เหมาะสม ที่สำคัญจะต้องปล่อยแขนตามแรงโน้มถ่วงของโลก

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

2.เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นอีกหนึ่งวิธีตีกอล์ฟให้ไกล นอกจากทักษะและไหวพริบอื่นๆ แล้ว กีฬากอล์ฟก็จำเป็นต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายส่วนต่างๆ สำหรับการสร้างแรงเหวี่ยง และช่วยรองรับแรงเหวี่ยงจากไม้ หากร่างกายแข็งแรงไม่พอ อาจดึงให้นักกอล์ฟเสียหลักได้ ที่สำคัญจะต้องออกกำลังกายให้ถูกส่วนจึงจะช่วยให้ตีกอล์ฟได้ระยะดีและไกลขึ้น

• กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว

กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle) เป็นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง หลัง และอุ้งเชิงกราน มีส่วนช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นกีฬาอีกด้วย ซึ่งท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวมีหลายท่า เช่น Side Plank, Glute Bridge และ Abdominal Crunch

• กล้ามเนื้ออก

การตีกอล์ฟจำเป็นต้องหมุนตัวในการสวิง การเล่นกล้ามเนื้ออกซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีส่วนช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของไม้กอล์ฟ นอกจากนี้ การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บระหว่างเล่นกีฬาได้อีกด้วย

• กล้ามเนื้อหลังบน

ร่างกายของคนเรานั้นประกอบไปด้วยชุดกล้ามเนื้อจำนวนมาก ซึ่งกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนจะทำงานสัมพันธ์กัน กล้ามเนื้อหลังบนเป็นส่วนที่วางตัวไปตามแนวกระดูกสันหลัง มีส่วนช่วยดึงลำตัวให้กลับมาตรงได้ หลังจากที่ก้มหรือเอี้ยวตัว ในกรณีของการเล่นกอล์ฟ หลังวาดวงสวิงไปแล้ว จังหวะที่ต้องดึงตัวกลับมา หากมีกล้ามเนื้อหลังบนที่แข็งแรงก็จะช่วยลดอาการปวดและอาการบาดเจ็บจากการตีกอล์ฟได้

• กล้ามเนื้อไหล่

หัวไหล่เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญในการเล่นกอล์ฟ หัวไหล่เป็นข้อต่อประเภทลูกกลมและเบ้า (Ball and Socket Joint) ซึ่งทำให้สามารถหมุนแขนเป็นวงกลมหรือกางแขนและหุบแขนได้ การออกกำลังกายบริเวณกล้ามเนื้อไหล่ให้แข็งแรงนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ช่วยให้มีความคล่องตัว และยืดหยุนได้ดีขึ้น

• กล้ามเนื้อขา

กล้ามเนื้อขาเป็นกล้ามเนื้อลายที่สามารถควบคุมการทำงานได้  ในการสร้างวงสวิงของการตีกอล์ฟ กล้ามเนื้อหลายๆ มัด รวมทั้ง กล้ามเนื้อขาจะทำงานร่วมกันและทำงานเป็นลำดับขั้นอย่างต่อเนื่อง การมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงก็จะเป็นวิธีช่วยเสริมในการตีกอล์ฟให้ไกลได้

• กล้ามเนื้อแขน

การสวิงเป็นการส่งแรงตั้งแต่แขนไปที่ข้อมือจนถึงหัวไม้ หากร่างกายมีกล้ามเนื้อแขนที่แข็งแรงก็จะช่วยให้มีแรงเหวี่ยง และมีแรงส่งไปยังไม้ เป็นอีกเทคนิควิธีตีกอล์ฟให้ไกลขึ้นได้

หาวิถีของลูกกอล์ฟเพื่อตีให้ได้ระยะมากที่สุด

3.หาวิถีของลูกกอล์ฟเพื่อตีให้ได้ระยะมากที่สุด

Launch Monitor เป็นเครื่องมือสำหรับการทดสอบวงสวิงจากลูกกอล์ฟและไม้กอล์ฟ เพื่อหาก้านไม้ที่เหมาะสมและดีที่สุด ซึ่งนักกอล์ฟแต่ละคนย่อมมีวงสวิงที่แตกต่างกันออกไป การทดสอบถือเป็นตัวช่วยในการเลือกไม้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อที่จะได้ควบคุมไม้และเป็นวิธีช่วยให้ตีกอล์ฟได้ไกลขึ้น แต่ค่าที่ได้จากเครื่อง Launch Monitor เป็นเพียงข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล ต้องอาศัยการ Fitter ให้มีความเหมาะสมอีกที

4.หาจังหวะความเร็วในการสวิงที่ใช่

การรู้จังหวะในการตีกอล์ฟของตัวเอง จะช่วยพัฒนาความเร็วในการสวิงของตัวเองได้อย่างถูกจุด ซึ่งจังหวะในการตีกอล์ฟของแต่ละก็จะมีลักษณะและจังหวะในการตีที่ไม่เหมือนกัน บางคนมีจังหวะการตีแบบ 1 2 และ 3 โดยเริ่มจาก 1. Black Swing -> 2.Top Swing -> 3.Down Swing แต่สำหรับบางคนอาจจะมีจังหวะในการตี 4 จังหวะคือ 1. Black Swing -> 2.Top Swing -> 3.จังหวะค้างเล็กน้อยก่อนจะดาวน์สวิง -> 4.Down Swing

นักกอล์ฟแต่ละคนก็จะคุ้นชินกับการจับจังหวะในการสวิงคนละแบบ หากคุ้นชินแบบใดก็ให้เลือกใช้จังหวะการตีแบบที่ถนัด เพื่อไม่ให้สูญเสียจังหวะของตนเอง ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองอีกด้วย เมื่อได้จังหวะที่เหมาะสมแล้ว ลองหาความเร็วในการสวิงที่เหมาะสมเพิ่มเติม จะได้มีโอกาสตีเข้า Sweet Spot หรือ จุดกลมกล่อม ที่เป็นจุดพอดีของแต่ละปัจเจกบุคคลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อิมแพกต์เต็มขึ้น และช่วยให้ลูกกอล์ฟพุ่งไปด้วยความเร็วสูงสุด

เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

5.เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

อุปกรณ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเล่นกอล์ฟ หากได้อุปกรณ์ที่มีความเหมาะสมกับตัวเอง ก็จะช่วยส่งเสริมให้การตีกอล์ฟนั้นดีขึ้นได้ วิธีตีกอล์ฟให้ไกลจำเป็นที่จะต้องเลือกไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟให้มีความเหมาะสม ซึ่งหลักง่ายๆ ในการเลือกอุปกรณ์ มีดังนี้

วิธีการเลือกไดรเวอร์

การเลือกไม้กอล์ฟเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มระยะในการตีให้กับนักกอล์ฟได้ ซึ่งหลักในการเลือกนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้องค์ประกอบหลายๆ อย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ความแข็งของการไม้ หรือแม้กระทั่งองศาของหน้าไม้ โดยมีสิ่งสำคัญ คือ จะต้องเลือกไม้ที่เหมาะกับสไตล์การตีของตัวเอง

• น้ำหนักของไม้

การเลือกน้ำหนักของไม้จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับความแข็งแรงของร่างกาย สำหรับนักกอล์ฟที่รูปร่างไม่สูงใหญ่ ควรเลือกใช้ไดรเวอร์ที่มีก้านนํ้าหนักไม่เกิน 60 กรัม ยิ่งนักกอล์ฟที่มีน้ำหนักตัวน้อย อย่างเช่น นักกอล์ฟเยาวชน และ สุภาพสตรี ควรใช้ก้านที่มีนํ้าหนักตํ่ากว่า 50 กรัม เพราะไม้ที่มีน้ำหนักเหมาะสมมีส่วนช่วยเร่งความเร็วหัวไม้ได้สูงขึ้น และเป็นวิธีช่วยให้ตีกอล์ฟได้ไกลขึ้น กล่าวคือ นํ้าหนักของไม้ที่ต่างกันจะทำให้ความเร็วในการตีแตกต่างกันได้ตั้งแต่ 2 MPH ถึง 5 MPH หากคำนวณเป็นระยะทางจะแตกต่างกันประมาณ 9 – 22 หลา

• ความแข็งของก้านไม้

การเลือกความแข็งของก้านที่เหมาะสม จะทำให้เกิดการดีดตัวเมื่อไม้เข้ากระทบลูก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วหัวไม้ได้ประมาณ 2 MPH หรือ ประมาณ 9 หลา

• องศาหน้าไม้

องศาของหน้าไม้ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างวิถีลูกที่ต่ำหรือว่าสูง ดังนั้น การจะเลือกองศาหน้าไม้ควรตรวจสอบวิถีลูกของตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้หน้าไม้ที่มีองศาเหมาะกับสไตล์การตีของตัวเอง

• ความยาวของไดรเวอร์

ปกติแล้วความยาวทั่วไปของไม้จะอยู่ที่ 46 นิ้ว แต่มีบางรุ่นออกความยาวพิเศษมาที่ 46 – 47 นิ้ว นอกจากนี้ นักกอล์ฟหลายคนเลือกที่จะเพิ่มความยาวของไม้ เพื่อให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ความเร็วหัวไม้เพิ่มขึ้น 2 – 5 MPH หรือ เป็นวิธีตีกอล์ฟให้ไกลขึ้นราว 9 – 22 หลา แต่สำหรับนักกอล์ฟที่นำไม้มาดัดแปลง เพิ่มความยาวเอง อาจทำให้มีน้ำหนักมากเกินไป จนทำให้ความเร็วในการสวิงลดลงได้เช่นกัน

การเลือกลูกกอล์ฟ

การเลือกลูกกอล์ฟ

ปัจจุบันมีลูกกอล์ฟให้เลือกหลากหลายรูปแบบ วัสดุที่ใช้ในการทำก็แตกต่างกันออกไป การจะเลือกลูกกอล์ฟให้เหมาะสมต้องดูความเร็วหัวไม้ที่ใช้ร่วมด้วย สำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ควรเลือกลูกกอล์ฟที่เปลือกเป็น Ionomer เพราะจะช่วยให้ลูกกอล์ฟเหินและโด่งได้ง่าย โดยเฉพาะเปลือก Ionomer แบบ 2 ชั้น ที่จะเน้นการเพิ่มระยะเป็นหลัก แต่สำหรับนักกอล์ฟที่แฮนดิแคปต่ำ ควรเลือกลูกกอล์ฟเปลือกแบบ Urethane โครงสร้าง 3 – 5 ชั้น เพราะนอกจากจะเป็นวิธีช่วยให้ตีกอล์ฟได้ไกลขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องเกมสั้นได้ดีอีกด้วย

คลายมือในจังหวะที่ต้องคลาย

6.คลายมือในจังหวะที่ต้องคลาย

จังหวะการคลายมือเป็นอีกหนึ่งวิธีตีกอล์ฟให้ไกลขึ้นได้ สำหรับผู้เล่นที่คลายมือเร็วเกินไปก่อนถึงช่วงอิมแพกต์ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างความเร็วสูงสุดไป การคลายข้อมือในจังหวะที่เหมาะสม หรือคลายก่อนจะเข้าช่วงอิมแพกต์ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการตีลูกให้สูงขึ้นได้ จากการทดสอบนักกอล์ฟที่ทำการ Black Swing แต่ตั้งใจคลายข้อมือเร็ว (Early Release) กับคลายข้อมือช่วงใกล้อิมแพกต์ (Delay Hit) พบว่าความเร็วหัวไม้ตอนกระทบลูกต่างกันสูงสุดถึง 10 MPH หรือ ระยะประมาณ 40 หลา

กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องใช้เทคนิคและการจัดระเบียบร่างกายที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้วงสวิงที่สวยงามและแข็งแรง หลายๆ คนอยากจะเพิ่มระยะไดรเวอร์ให้ไกลขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำแต้มมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีตีกอล์ฟให้ไกลนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งการเลือกไม้ การจัดท่าทาง และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ที่สำคัญต้องใช้เวลาในการฝึกฝน เพื่อให้เกิดความชำนาญ การออกรอบบ่อย ๆ หรือฝึกไดรฟ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในสนามกอล์ฟที่มีเอกลักษณ์ ไม่ยากและง่ายจนเกินไปจะทำให้ผู้เล่นได้ฝึกประสบการณ์มากขึ้นไปอีกด้วย