6 พื้นที่ตั้งแคมป์ และวิธีเตรียมตัว ให้พร้อมลุยกับทริปนี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คนขนเต็นท์ออกไปหาพื้นที่ตั้งแคมป์ เพื่อดื่มด่ำธรรมชาติ และรับอากาศบริสุทธิ์ สำหรับมือใหม่ที่กำลังอยากจะออกไปกางเต็นท์ตั้งแคมป์บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน หรือไม่แน่ใจว่าไปแคมป์ปิ้งต้องเตรียมอะไรบ้าง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมสถานที่ตั้งแคมป์ยอดฮิต และข้อมูลการเตรียมตัวสำหรับมือใหม่หัดตั้งแคมป์มาฝากกัน แต่จะมีอะไรบ้าง และน่าไปมากแค่ไหน ต้องตามดูกันเลย!
1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความใหญ่สมชื่อ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 11 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ทำให้มีภูมิทัศน์หลากหลาย เกิดเป็นจุดท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทาง และนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก หาดทราย ลานหิน ลานหญ้า หรือผาสวย สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ตั้งแคมป์ที่สามารถมองเห็นแสงดาวใต้ฟ้ากว้าง พร้อมกับดูทะเลหมอก ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก และนอนฟังเสียงสัตว์ป่าได้ในเวลาเดียวกัน ต้องห้ามพลาดที่จะแวะมาที่นี่ หรือจุดกางเต็นท์เขาใหญ่ที่อยู่โดยรอบได้ตามชอบ
นอกจากนั้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือพื้นที่ตั้งแคมป์โดยรอบยังมีกิจกรรมตอนกลางวันให้นักเดินทาง หรือนักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกอีกด้วย เช่น นั่งเรือหางยาว ตกปลา ล่องแพ ชมน้ำตก ขี่ช้าง ลุยป่า และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่ามาที่เขาใหญ่เพียงที่เดียวก็กิจกรรมให้ทุกคนได้ร่วมสนุกเกือบทุกอย่าง ถือว่าเป็นสวรรค์ของสายแคมป์ปิงที่แท้จริง
- ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตู้ ปณ.9 ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา
2. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต เป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความร่มรื่นของผืนหญ้าริมน้ำ ความเงียบสงบ และความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์และสัตว์นานาชนิด จึงทำให้หนึ่งในกิจกรรมของคนที่แวะมาตั้งแคมป์ปิ้งที่นี่ คือ การให้อาหารกระต่ายในศูนย์ฯ พร้อมกับเดินเล่นชมน้ำตก และลุยป่าไปเก็บภาพเห็ดแชมเปญสีส้ม นอกจากนั้นทางศูนย์ฯ ยังได้แบ่งพื้นที่ต่างๆ ออกเป็นสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ พื้นที่ป่า พื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยว บ้านพัก ร้านค้า และลานสำหรับกางเต็นท์แคมป์ปิ้ง สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาที่ตั้งแคมป์ที่เงียบสงบ มีบรรยากาศผ่อนคลาย และมีกิจกรรมไว้ให้ทำแก้เบื่อ ต้องห้ามพลาดที่จะแวะมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่เลยทีเดียว
- ที่ตั้ง: หมู่ 5 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
3. อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน
อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ที่เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากอีกแห่งหนึ่ง โดยมีทั้งพืชนานาชนิด และสัตว์นานาพันธุ์อาศัยอยู่ในทิวเขาสูง อย่างเช่น นกเงือกกรามช้าง กวางป่า กระรอก และกระแต เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ให้ทุกคนได้แวะไปเที่ยวชม และเก็บภาพประทับใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำกลางหุบเขา โขดหินสวยงาม น้ำตกสามชั้นในแก่งเทียนป่า น้ำตกผานกยูง และน้ำพุร้อนโป่งกระทิง เป็นต้น แถมที่นี่ยังเปิดให้บริการจุดกางเต็นท์พักแรม และแช่น้ำพุร้อน เพื่อให้ทุกคนได้สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มที่
- ที่ตั้ง: หมู่ 4 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
4. เขื่อนแก่งกระจาน
สำหรับมือใหม่ที่อยากลองตั้งแคมป์ปิ้งริมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อน ต้องห้ามพลาดที่จะแวะมาที่เขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งมีจุดเด่นที่ความสวย ความสะอาด แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดูอีกด้วย โดยฤดูหนาวเป็นช่วงที่นักเดินทาง และนักท่องเที่ยวจะนิยมมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูที่สามารถเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน
นอกจากนั้นที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทุกคนได้ร่วมสนุกอีกมากมาย อย่างเช่น การชมผีเสื้อ นั่งเรือหางยาว ล่องแก่ง และตกปลาหลากสายพันธุ์ แถมยังสามารถแวะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้ๆ เขื่อนแก่งกระจานได้อีกหลากหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นถ้ำเขาย้อย เขาวัง และหาดเจ้าสำราญ เป็นต้น
- ที่ตั้ง: ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
5. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด
สำหรับมือใหม่ที่คิดว่าการแคมป์ปิ้งในป่านั้นไม่ใช่สไตล์ของตัวเอง ต้องลองเปลี่ยนไปตั้งแคมป์ปิ้งที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด หรือเรียกสั้นๆ ว่า เขาแหลมหญ้า โดยเป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ที่ไม่ใช่แค่ทะเลทั่วไป แต่เชื่อกันว่าที่นี่ คือ เกาะแก้วพิสดารในเรื่องพระอภัยมณี ซึ่งเขาแหลมหญ้านั้นจะมีลักษณะเป็นเขาเตี้ยที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ โขดหิน และท้องทะเล จึงทำให้หลายๆ คนนิยมไปกางเต็นท์ เพื่อนอนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และฟังเสียงคลื่นทะเลไปในเวลาเดียวกัน
นอกจากนั้นที่นี่ยังมีกิจกรรมที่ทุกคนต้องห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นนั่งเรือชมวิว ดำน้ำดูปะการัง และเดินเล่นเรียบสะพานริมทะเล เพื่อชมวิวทุ่งหญ้าสะวันนาสุดปลายเขา แถมตอนขากลับยังสามารถแวะไปรับประทานอาหารทะเลสดที่หาดแม่รำพึง หรือไปเที่ยวต่อที่เกาะเสม็ดได้อีกด้วย
- ที่ตั้ง: หมู่เกาะเสม็ด 79 หมู่ 1 บ้านก้นอ่าว ถ.หาดแม่รำพึง-เพ ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
6. บ้านเราริมเขื่อน สวนคุณดา
บ้านเราริมเขื่อน สวนคุณดา เป็นพื้นที่ตั้งแคมป์อีกที่ที่เป็นทางเลือกสำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากตั้งแคมป์ปิ้งในป่า โดยที่นี่จะมีบริการลานจุดกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำคลองระโอก พร้อมวิวสายหมอกเหนือผืนป่าสน มีทั้งหมอกสวยที่มาพร้อมความสดชื่นยามเช้า และท้องฟ้าหลากเฉดสีเมื่อพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ไม่ว่าใครที่แวะมาที่นี่ก็ต่างประทับใจในทัศนียภาพที่สวยงาม เพราะบรรยากาศที่นี่จะคล้ายกับปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และที่สำคัญ คือ ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทุกคนได้ร่วมสนุกอย่างมากมาย เช่น พายเรือคายัค เล่นซับบอร์ด และเข้าสวนเก็บผลไม้ เป็นต้น
- ที่ตั้ง: บ้านเราริมเขื่อน สวนคุณดา ม.8 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ก่อนออกไปแคมปิง
ถ้าหากคุณเลือกสถานที่ที่ถูกใจได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือ การเตรียมอุปกรณ์ในการตั้งแคมป์ให้พร้อม ดังนั้น เรามาดูกันว่าไปแคมป์ปิ้งต้องเตรียมอะไรบ้าง โดยสิ่งที่คุณต้องเตรียมไปแคมป์มีทั้งหมด ดังนี้
เต็นท์
เต็นท์ เป็นอุปกรณ์สำคัญในการตั้งแคมป์ปิ้ง เพราะว่าเต็นท์นั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังเล็กที่ไว้พักอาศัย และคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางไปตลอดทั้งทริป โดยวิธีการเลือกเต็นท์ มีดังนี้
- เลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศช่วงที่ไปตั้งแคมป์ โดยเต็นท์ที่ทำมาจากคอตตอนนั้นจะเหมาะกับอากาศร้อน เพราะว่าสามารถระบายอากาศได้ดี และเต็นท์ที่ทำมาจากพียูวีนั้นเหมาะกับอากาศชื้น หรือช่วงที่ฝนตก เพราะว่าพียูวีนั้นสามารถกันน้ำได้ดี
- มีขนาดที่เหมาะสม ควรเลือกขนาดเต็นท์ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยและจำนวนคน เพื่อไม่ให้รู้สึกแออัดมากเกินไป
แผ่นรองนอน
พื้นที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่นั้นเป็นป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขรุขระ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเตรียมแผ่นรองนอนไปด้วย เพื่อช่วยป้องกันอาการปวดหลัง หรือนอนหลับไม่สบาย โดยวิธีการเลือกแผ่นรองนอน มีดังนี้
- แผ่นรองนอนแบบบาง เป็นแผ่นรองนอนที่สามารถเก็บได้ง่าย น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก
- แผ่นรองนอนแบบหนา เป็นแผ่นรองนอนที่มีความสบายกว่าแบบบาง แต่ว่ามีขนาดใหญ่กว่า และใช้พื้นที่ในการเก็บมากกว่า
- เตียงนอน เป็นแผ่นรองนอนที่สบายที่สุด แต่ว่ามีขนาดใหญ่มาก ใช้พื้นที่ในการเก็บมาก และมีน้ำหนักมากที่สุด
ถุงนอน
ก่อนไปแคมป์ปิ้งในป่าควรเช็กสภาพอากาศให้ดีเสียก่อน เพราะว่าจะได้เลือกถุงนอนให้มีความเหมาะสม เช่น ถ้าหากไปพื้นที่ที่มีฝนตก ควรเลือกวัสดุเป็นโพลีเอสเตอร์ที่ระบายอากาศได้ดี และแห้งเร็ว แต่ถ้าหากอากาศหนาวก็ควรเลือกถุงนอนที่มีความหนา และให้ความอบอุ่นได้ดี เป็นต้น โดยที่ถุงนอนมักจะมีฉลากกำกับระดับความอบอุ่น ได้แก่ Upper limit, Comfort, Lower limit และ Extreme ซึ่งระดับ Upper Limit จะมีความอบอุ่นมากที่สุด และลดลงมาตามลำดับ และถ้าหากไม่มีฉลากกำกับดังกล่าวก็มักจะมีฉลากบอกว่าเหมาะใช้ในฤดูไหนแทน
ทาร์ป
พื้นที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่มักจะเป็นพื้นที่กลางแจ้ง ดังนั้น ทาร์ปจึงเป็นตัวช่วยเสริมที่จะช่วยบังแดด บังฝน และกันน้ำค้างได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถกางทาร์ปเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย พื้นที่สังสรรค์ พื้นที่สำหรับทำอาหาร หรือนั่งทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้อีกด้วย
อุปกรณ์ให้แสงสว่าง
อุปกรณ์ให้แสงสว่าง ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปแคมป์ โดยเฉพาะผู้ที่วางแผนว่าจะไปถึงที่หมาย และเริ่มกางเต็นท์ในตอนกลางคืน เพราะว่าในช่วงกลางคืนในป่านั้นจะมีความมืดมากกว่าปกติ ซึ่งอุปกรณ์ให้แสงสว่างนั้นมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ เช่น หลอดไฟแบบ LED ไร้สาย ตะเกียงแบบเติมน้ำมันก๊าซ หรือไฟฉายคาดหัว เป็นต้น
ชุดโต๊ะ เก้าอี้
ชุดโต๊ะ และเก้าอี้ เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยอำนวยสะดวกให้การตั้งแคมป์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสังสรรค์ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง รวมถึงการนั่งพัก นั่งดื่ม หรือรับประทานอาหาร โดยวิธีการเลือกชุดโต๊ะ และเก้าอี้ มีดังนี้
- ความสบาย ควรเลือกชุดโต๊ะ และเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระของตัวเอง โดยคุณอาจจะทำการทดลองนั่งก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับคุณจริงๆ
- ความสะดวกในการพกพา ควรเลือกชุดโต๊ะ และเก้าอี้ที่ขนาดพอดี น้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และพกพาสะดวก
- วัสดุที่ใช้ เลือกชุดโต๊ะ และเก้าอี้ที่มีวัสดุเหมาะกับการใช้งาน เช่น แบบไม้จะมีความคงทนแข็งแรง หรือแบบพีวีซีที่มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีราคาถูก เป็นต้น
อุปกรณ์ทำอาหาร
ถึงแม้ว่าพื้นที่ตั้งแคมป์จะล้อมรอบไปด้วยอาหารตาที่ธรรมชาติสร้างให้ แต่ร่างกายก็ยังต้องการอาหารจริงๆ ซึ่งเมนูยอดฮิตของชาวแคมป์ที่เข้ากับบรรยากาศธรรมชาตินั้นมีทั้งกาแฟ ข้าวโพดย่าง มันม่วงเผา หมูกระทะ และบาร์บิคิว โดยอุปกรณ์ที่นิยมพกไปตั้งแคมป์ปิ้งในป่า มีดังนี้
- กระทะ
- กาต้มน้ำ
- อุปกรณ์ทำกาแฟ
- เตาแก๊สปิกนิก
- เตาปิ้งย่างอเนกประสงค์
แบตสำรองสำหรับพกพา
พื้นที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปลั๊กสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น การพกแบตสำรองไปด้วยเพื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อต้องออกไปตั้งแคมป์ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์จะหมดในระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ
สำหรับมือใหม่หัดตั้งแคมป์ต้องรู้อะไรบ้าง
หลังจากมือใหม่ได้รู้ถึงวิธีการเตรียมตัวไปแคมป์เรียบร้อยแล้ว ยังสามารถศึกษาวิธีเตรียมตัวเข้าป่าเพิ่มเติม เพื่อให้การท่องเที่ยวในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนั้นยังควรรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ และข้อควรรู้ที่จะช่วยให้การออกเดินทางครั้งนี้มีแต่ความประทับใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
- ไม่ส่งเสียงดัง นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรส่งเสียงดัง โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่เป็นเวลานอน เพราะว่าการตั้งแคมป์นั้นเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกับคนอื่นๆ
- เก็บขยะทิ้งให้เป็นที่ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาพื้นที่ให้สะอาด มัดปากถุงเศษอาหาร และขยะก่อนจะนำไปทิ้งในจุดทิ้งขยะ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เข้าไปคุ้ยอาหาร
- แต่งตัวให้กระฉับเฉง นักท่องเที่ยวทุกคนควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความคล่องตัว หรือเลือกสไตล์การแต่งตัวเที่ยวธรรมชาติที่เหมาะกับกิจกรรมที่จะต้องทำมากที่สุด
ข้อควรรู้
การกางเต็นท์ที่ถูกวิธีจะช่วยให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และไม่ถูกรบกวนจากแมลงหรือสัตว์ขนาดเล็ก โดยข้อควรรู้ในการกางเต็นท์ มีดังนี้
- ไม่กางเต็นท์ใต้ต้นไม้ บริเวณต้นไม้นั้นอาจจะมีสัตว์หากิน หรืออาศัยอยู่โดยรอบ และอาจมีกิ่งไม้หักลงมา ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายได้
- ตรวจสอบพื้นที่ก่อนกางเต็นท์ ก่อนกางเต็นท์คุณควรตรวจสอบพื้นที่บริเวณนั้นๆ ให้ดี เช่น ควรเลือกพื้นที่ที่ไม่มีแมลง เพื่อป้องกันการถูก กัด ต่อย รวมทั้งเลือกกางเต็นท์บนพื้นที่ราบ เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสน้ำที่จะไหลเข้ามาในตอนกลางคืน หรือในช่วงที่ฝนตก
- ยึดสมอให้มั่นคง การกางเต็นท์นั้นจะต้องตอกสมอทำมุมสวนทางกับเชือก 45 องศา และไม่ควรตอกตรงเป็นมุมฉาก เพราะจะสามารถบังลมได้น้อยกว่า
ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ในการท่องเที่ยวแบบใหม่ หรืออยากไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ การตั้งแคมป์ เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยให้ทุกคนได้เก็บทัศนียภาพที่สวยงาม และรับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ถือว่ามีพื้นที่ตั้งแคมป์ให้เลือกมากมาย และที่สำคัญคือ ทุกคนควรเตรียมของไปแคมป์ให้พร้อม เช่น เต็นท์ ทาร์ป ถุงนอน อุปกรณ์ทำอาหาร และอุปกรณ์ให้ความสว่าง และเมื่อตั้งแคมป์เสร็จแล้ว ก็ควรเก็บขยะให้เรียบร้อย เพื่อช่วยรักษาพื้นที่ให้สะอาด และสวยงามเช่นเดิม