fbpx

10 ประเทศน่าเที่ยวในยุโรปที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเที่ยวให้ได้

สำหรับใครที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่มีวิวสวยๆ รวมไปถึง มีแลนด์มาร์ก เทศกาล หรือกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ หากเลือกประเทศได้แล้ว อย่าลืมเตรียมเอกสารต่างๆ และสิ่งของที่จำเป็น เพื่อให้ทริปในฝันของคุณราบรื่นมากขึ้น บทความนี้ ได้รวบรวม 10 ประเทศน่าเที่ยวในยุโรปจากสถิติของ World Atlas จะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

ประเทศอังกฤษ

1. ประเทศอังกฤษ

อังกฤษ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลไปทั่วโลกตั้งแต่ในช่วงยุคการล่าอาณานิคม เป็นต้นแบบของภาษาอังกฤษสำเนียงบริติช และยังเป็นประเทศที่เป็นจุดกำเนิดของมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น กีฬาฟุตบอล และขนมขึ้นชื่ออย่าง “สโคน” รวมทั้ง เป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์ชื่อดังในอดีตอย่าง วิลเลียม เชกสเปียร์ และเวอร์จิเนีย วูล์ฟอีกด้วย โดยของฝากจากประเทศอังกฤษมีมากมาย เช่น พวงกุญแจ Cath Kidston ชา Harrods และขนมจากร้านเก่าแก่ Mark & Spencer

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิวสวยๆ ในยุโรป ที่ประเทศอังกฤษมีแลนด์มาร์กที่สำคัญมากมาย ดังนี้

  • สโตนเฮนจ์ (Stonehenge): อนุสรณ์สถานยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุกว่า 5,000 ปี สร้างด้วยแท่งหินขนาดมหึมาหลายก้อนเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 2 วง
  • หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben): นาฬิกาสี่หน้าปัด ที่ถือเป็นเอกลักษณ์แห่งกรุงลอนดอน อายุมากกว่า 150 ปี สูงราว 100 เมตร ตัวระฆังหนักถึง 13 ตัน
  • พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace): พระราชวังเก่าแก่ของอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมนีโอคลาสิก (Neoclassical Architecture) ปัจจุบันเป็นพระราชฐานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และพระราชวงศ์ เปิดให้เข้าชมได้บางส่วน

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศอังกฤษ มีดังนี้

  • Jorvik Viking: เทศกาลที่เฉลิมฉลองและแสดงความยินดีที่ชาวไวกิงสามารถพิชิตเกาะอังกฤษได้
  • Cooper’s Hill Cheese-Rolling: คนท้องถิ่นที่นี่จะจัดงานนี้บนเนินเขาคูเปอร์ โดยการกลิ้งก้อนชีสกลมๆ ลงมา  หากใครที่วิ่งตามเก็บก้อนชีสได้ ก็รับชีสก้อนนั้นเป็นรางวัลไป
  • Glastonbury: เทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นทุกปี มีศิลปินนักร้องทั้งแนว Pop, Pop Rock, Rock ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มารวมตัวกันเพื่องานนี้

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในการไปเที่ยวประเทศอังกฤษมีให้เลือกมากมาย สำหรับใครที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลคงไม่อยากพลาดการเข้าร่วมดูฟุตบอลสดพรีเมียร์ลีก หรือหากคุณเป็นสายชมงานศิลป์ หรือชอบดูนิทรรศการต่างๆ สามารถไปเดิน พิพิธภัณฑ์อังกฤษ (The British Museum) หรือ หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery) นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลย คือ การจิบชาสไตล์อังกฤษ (English Afternoon Tea)

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

2.ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำหรับใครที่มองหาประเทศน่าเที่ยวในโซนยุโรปที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม คงจะนึกถึง ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นอันดับต้นๆ เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงาม ไม่ว่าจะเป็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ทะเลสาบโอชิเนน (Oeschinen Lake) และน้ำตกไรน์ (Rhein fall) โดยประเทศสวิสเซอร์แลนด์จะมีภาษาราชการมากถึง 4 ภาษา คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และรูมันช์ ซึ่งจะมีการใช้ในภูมิภาคที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลต ซึ่งมีแบรนด์ดังมากมาย เช่น Cailler, Lindt และ Toblerone ที่ไม่ว่าใครมาประเทศนี้ก็ต้องซื้อเป็นของฝาก แต่ถ้าหากใครชื่นชอบงานแฮนด์เมด หรือนาฬิกาลักชัวรี่ งานปักและงานไม้แกะสลักจากเมือง Interlaken และนาฬิกาโรเล็กซ์จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีแลนด์มาร์กที่สำคัญมากมาย ดังนี้

  • ทะเลสาบซูริค (Lake Zurich): ทะเลสาบน้ำใส ที่มีลักษณะเป็นทางสายยาวพาดผ่านใจกลางเมืองซูริค มีระยะทางกว่า 29 กิโลเมตร  
  • พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Schweizerisches Landesmuseum): ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากปราสาทในยุคฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรม (Renaissance) ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่เมืองซูริค มีงานแสดงศิลปะมากกว่า 860,000 ชิ้น
  • โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey): อยู่ริมแม่น้ำลิมมัต งดงามด้วยกระจกสีที่ประดับประดาไว้รอบโบสถ์ เดิมที่ได้ถูกสร้างด้วยศิลปะแบบโรมาเนสก์ (Romanesque Art) ก่อนที่ตัวโครงสร้างจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นศิลปะแบบโกธิคในเวลาต่อมา

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีดังนี้

  • Montreux Jazz Festival: เทศกาลดนตรีที่ศิลปินแจ๊สระดับโลกมารวมตัวกัน จัดขึ้นในเมืองมองเทรอซ์
  • Festival International de Ballons: เทศกาลบอลลูนนานาชาติชาโตเดอซ์ (Chateau-d’Oex) แต่งแต้มท้องฟ้าสีเทาให้มีสีสันด้วยบอลลูนขนาดยักษ์ พร้อมชมการแสดงลูกโป่งเรืองแสงยามค่ำคืน
  • Fasnacht Spring Carnival: เทศกาลฟาสนาคท์ หรือการเดินพาเหรดสวมหน้ากาก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองก่อนเข้าสู่ช่วงระยะเวลาอดอาหาร ก่อนเทศกาลอีสเตอร์

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีให้เลือกมากมาย สำหรับสายรักธรรมชาติสามารถเลือกกิจกรรมปีนเทือกเขา นั่งกระเช้าลอยฟ้า หรือนั่งรถรางที่สะพาน Quaibrcke เพื่อชื่นชมความงามของทะเลสาบซูริค นอกจากนี้ ยังสามารถปั่นจักรยานในสวนสาธารณะ หรือเยี่ยมชมความสวยงามของวัดห้องสมุดเซนต์แกล (Stiftsbibliothek) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมบาโรก (Baroque Architecture) ที่มีความโดดเด่นจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกในฐานะตัวอย่างอารามอแล็งเฌียง (Carolingian)

3.ประเทศอิตาลี

ประเทศอิตาลีถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความสำคัญทางด้านงานศิลปะหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม หรือวรรณกรรม เพราะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance Era) และเป็นบ้านเกิดของศิลปินหลายท่าน เช่น มิกันเจโล (Michelangelo) เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) และ ดันเต อาลีกีเอรี (Dante Alighieri)

นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของเมนูอาหารที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง สปาเก็ตตี้ พาสต้า และพิซซ่า โดยอาหารขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี คือ ครอสตินี่ และพิซซ่าหน้าเห็ด และสำหรับใครที่มองหาของฝาก สามารถเลือกซื้อเครื่องแก้ว หรือเครื่องประดับ โดยเฉพาะเครื่องทองเป็นของติดไม้ติดมือกลับไปได้

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

สถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กที่มีความสวยงามของประเทศอิตาลี มีดังนี้

  • เวนิส (Venice): เมืองแห่งสายน้ำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก และหนึ่งในจุดหมายปลายทางสุดโรแมนติก ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และการคมนาคมทางเรือ
  • โคลอสเซียม (Colosseum): สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม อีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญของสถาปัตยกรรมแบบโรมันโบราณ (Ancient Roman Architecture) มีอายุมากกว่า 2000 ปี ซึ่งเป็นต้นแบบของการสร้างสนามกีฬาหรืออัฒจันทร์ในปัจจุบัน
  • วิหารแพนธีออน (Pantheon): วิหารรูปทรงจัตุรัสเก่าแก่ที่สุดในกรุงโรม มีอายุมากกว่า 2,000 ปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันโบราณ มีจุดเด่นคือเสาหินแกรนิตขนาดใหญ่แบบคอรินเทียน (Corinthian Order) ที่วางเรียงด้านหน้าวิหารจำนวน 8 เสา โดยแต่ละเสาสร้างจากหินเพียงก้อนเดียวที่ไม่มีการต่อเติม

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศอิตาลี มีดังนี้

  • Venice Carnival: เทศกาลเดินพาเหรดระดับโลกที่มีการสวมหน้ากากแฟนซี พร้อมชุดพื้นเมืองโบราณของชาวเวเนเชียน จัดขึ้นทุกปีที่เมืองเวนิส
  • Genzanodi Roma Flower Festival: เทศกาลปูพรมดอกไม้ ด้วยดอกไม้นานาชนิดกว่า 500,000 ชิ้น จัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน ที่เมือง Genzanodi เมืองที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองถึงวัน Corpus Christi ซึ่งเป็นพิธีรำลึกถึงเหตุการณ์พระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะวัฒนธรรม หรือต้องการชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ในประเทศอิตาลี ไม่ควรพลาด กิจกรรมล่องเรือกอนโดลา ในเมืองเวนิส หรือการแวะพักผ่อนที่ทะเลาสาบโคโม (Lake Como) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่งดงามที่สุดในอิตาลี หรือการเดินชมสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม เช่น มหาวิหารมิลาน (Milan Cathedral) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบกอธิค (Gothic Architecture) และมรดกโลกที่สำคัญอย่างหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa)

ประเทศออสเตรีย

4.ประเทศออสเตรีย

หากคุณกำลังมองหาประเทศน่าเที่ยวในยุโรปที่มีเมืองและวิวธรรมชาติที่สวยงาม ประเทศออสเตรียถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด เพราะมีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่ามากมาย เช่น แลนมาร์กต่างๆ ในกรุงเวียนนา (Vienna) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย โดยประเทศนี้ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ

สำหรับอาหารขึ้นชื่อของประเทศออสเตรียที่ควรไปลิ้มลองสักครั้ง คือ วีเนอร์ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) หรือเนื้อลูกวัวชุบแป้งทอดและเกล็ดขนมปัง เสิร์ฟคู่กับเลมอนฝานบางๆ และสลัดมันฝรั่ง หรือขนมหวานที่มีลักษณะคล้ายแพนเค้กอย่าง Kaiserschmarren นอกจากนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาของฝาก สามารถเลือกซื้อผ้าปัก ไม้แกะสลัก หรือเครื่องประดับสวารอฟสกี้ (Swarovski) กลับไปเป็นที่ระลึกได้

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

แลนมาร์กสำคัญในประเทศออสเตรีย มีดังนี้

  • พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace): ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก ภายในอุทยานเคยเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งแรกของโลก โดยปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งมรดกโลกที่สำคัญ
  • ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt): เมืองชนทบทเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยทะเลสาบและภูเขาสูง เป็นเมืองริมทะเลสาบที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสวยงามมากที่สุดในโลก

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศออสเตรีย มีดังนี้

  • World Body Painting: เป็นการรวมตัวกันของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงามบนเรือนร่างกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
  • Salzburg Festival: เทศกาลดนตรีสดและการละคร จัดขึ้นที่เมือง Salzburg ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 มักจัดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมที่น่าสนใจในประเทศออสเตรียมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นสกีที่ยอดเขา Hafelekarspitze ซึ่งเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หรือการเที่ยวชมเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าที่มีจุดเด่นอยู่ที่บ้านเรือนสีสันสดใสเหมือนลูกกวาดอีกด้วย

ประเทศฝรั่งเศส

5.ประเทศฝรั่งเศส

หากกล่าวถึงประเทศฝรั่งเศส หลายๆ คนคงจะนึกถึงเมืองหลวงแห่งแฟชั่นอย่างกรุงปารีส หรือแลนมาร์กที่สำคัญ และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น หอไอเฟล หรือ มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) เป็นต้น  โดยภาษาราชการของที่นี่คือ ภาษาฝรั่งเศส ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในภาษาที่โรแมนติกที่สุดในโลก

สำหรับขนมหวานขึ้นชื่อของฝรั่งเศสที่ไม่ควรพลาด คือ  ครัวซอง และบาเก็ต ส่วนของที่ควรซื้อกลับไปฝาก คือ น้ำหอมและเครื่องหนังต่างๆ

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

หากคุณอยากชื่นชอบวิวสวยๆ ในโซนยุโรป ในประเทศฝรั่งเศสมีแลนมาร์กที่สำคัญ มีดังนี้

  • หอไอเฟล (Eiffel Tower): สถาปัตยกรรมที่ถือได้ว่าเป็น สัญลักษณ์ของฝรั่งเศส มีโครงสร้างเป็นเหล็ก ตั้งอยู่บนถนนช็องเดอมาร์ (Champ de Mars) ในกรุงปารีส สามารถชมวิวบนยอดหอได้
  • พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace): พระราชวังจากหินอ่อนสีขาว ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกแบบฝรั่งเศส (French Baroque Architecture) ได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
  • พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum): ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง มีความเก่าแก่ และมีขนาดใหญ่ที่สุด มีจุดเด่นคือพิระมิดแก้วที่วางอยู่ด้านหน้า และภายในมีงานศิลปะที่มีความสำคัญหลายชิ้น เช่น รูปภาพ Liberty Leading the People และ Mona Lisa หรือรูปปั้น Venus de Milo เป็นต้น

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศฝรั่งเศส มีดังนี้

  • Bastille Day: วันบาสตีย์ หรือวันชาติฝรั่งเศส มีการเดินพาเหรดบนถนนฌองเอลิเซ่ไปจนถึงจัตุรัสคองคอร์ด เพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์การทลายคุกบาสตีย์ (Fall of the Bastille) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์การปฏิวัติฝรั่งเศส
  • Fête de la Musique: หรือ World Music Day เป็นงานแสดงดนตรีในยามค่ำคืน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
  • Carnival de Nice Le: คาร์นิวัลแห่งเมืองนีซ ถือเป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยงานดังกล่าวได้รับการสืบทอดมากว่า 700 ปี เป็นงานเดินพาเหรดสุดอลังการที่แบ่งเป็นทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

สำหรับผู้ที่อยากวิวสวยๆ ของเมืองและธรรมชาติในแง่มุมใหม่ๆ สามารถเลือกกิจกรรมการล่องเรือชมแม่น้ำแซนและความงามของกรุงปารีสได้ หรือการเดินชมสถาปัตยกรรมต่างๆ และการเดินช็อปิงในย่านมาเรส์ (Le Marais) แต่หากชื่นชอบการเล่นเครื่องเล่นต่างๆ สามารถไปได้ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ปารีส (Disneyland Paris)

ประเทศเยอรมนี

6.ประเทศเยอรมนี

เยอรมนี ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศมหาอำนาจในโซนยุโรป เพราะในปัจจุบันเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่มีแหล่งมรดกโลกที่สำคัญจำนวนมากติดอันดับโลกอีกด้วย สำหรับใครที่มองหาประเทศน่าเที่ยวในยุโรป เยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด โดยประเทศนี้ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ

อาหารขึ้นชื่อของประเทศเยอรมนี คงหนีไม่พ้น ไส้กรอก Würste, Lebkuchen (ขนมปังขิง) และขาหมูเยอรมัน ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก สำหรับของฝากที่ไม่ว่าใครมา ก็ต้องซื้อกลับไป คือ ตุ๊กตา Hummel Figurines นาฬิกาแขวนผนัง Cuckoo หรือ แก้วเบียร์ Beer Stein

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวประเทศเยอรมนีแล้วยังไม่รู้จะไปไหนดี ก็มีแลนมาร์กที่น่าลองไปเยี่ยมชม ดังนี้

  • ปราสาทนอยชวานชไตน์  (Neuschwanstein Castle): ตั้งอยู่บนหินผาสูงกว่า 200 เมตร บนเทือกเขาแอลป์ ถือเป็นปราสาทยุโรปที่มีความงดงามมากที่สุด นอกจากนี้ ยังเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทในสวนสนุกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทเจ้าหญิงนิทราที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ หรือปราสาทที่แดนเนรมิตอีกด้วย
  • กำแพงเมืองเบอร์ลิน (Berlin Wall): กำแพงที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะกั้นระหว่างเยอรมนีตะวันตกและตะวันออกในช่วงยุคสงครามเย็น ปัจจุบันซากปรักหักพังของกำแพงได้รับการแต่งแต้มสีสันและลายกราฟิตี้ที่มีข้อความหรือธีม เพื่อที่สื่อถึงความเจ็บปวดที่หลงเหลือจากเหตุการณ์ดังกล่าว
  • เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt): เมืองสวยๆ ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ ที่มีจุดเช็กอินหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg Square) พิพิธภัณฑ์บ้านเกอเธ่ (Goethe House) และมหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral)

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศเยอรมนี มีดังนี้

  • Christmas: ชาวเยอรมันถือเป็นชนชาติแรกที่เริ่มประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส สำหรับเทศกาลคริสต์มาสในประเทศเยอรมนีก็มีจุดเด่นหลายอย่าง เช่น ตลาดคริสต์มาส เป็นต้น
  • Oktoberfest: เทศกาลเบียร์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก จัดที่เมืองมิวนิค ภายในงานจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ขบวนพาเหรดรถม้าบรรทุกถังเบียร์ หรือชุดแต่งกายแบบดั้งเดิม เป็นต้น
  • Karneval: เทศกาลคาร์นิวัล ที่มีพาเหรดชุดแต่งการแฟนซี ซึ่งเปิดโอกาสให้หลายๆ ประเทศร่วมด้วย

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในประเทศเยอรมนีมีให้เลือกมากมาย เช่น การเดินเที่ยวชมแลนมาร์กในเมืองโคโลญ (Cologne) อย่างมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสี หรือพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกกิจกรรมนั่งเรือชมเมืองลือเบกค์ (Lubeck) ที่เป็นเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี และร่วมสนุกกับมื้ออาหารที่โรงเบียร์เยอรมัน

ประเทศสวีเดน

7.ประเทศสวีเดน

อีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในยุโรปที่มีวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม คงหนีไม่พ้น ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และภูเขาสูง ทำให้เป็นแหล่งทรัพยาการทางธรรมชาติที่สำคัญ เช่น ไม้ และแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้ ประเทศสวีเดนยังมีสถาปัตยกรรม และมรดกโลกที่สำคัญอีกมายมาย เช่น พระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม (Drottningholm Palace )เป็นต้น โดยประเทศนี้ใช้ภาษาสวีเดนเป็นภาษาราชการ

สำหรับอาหารที่ขึ้นชื่อของประเทศสวีเดน คือ ปลาแฮร์ริ่งดอง และซุปถั่วพร้อมแพนเค้ก ที่ไม่ว่าใครได้ลิ้มลองจะต้องติดใจ หรือหากมองหาของฝาก สามารถเลือกซื้อม้าไม้แกะสลัก (Dala Horse) และขนมปังขิง Pepparkakor ติดไม้ติดมือกลับไปได้

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

สวีเดนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแลนมาร์กที่สำคัญมากมาย เช่น

  • เมืองสตอกโฮล์ม (Stockholm): เมืองหลวงของประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก แกลเลอรี และโรงละครต่างๆ เช่น  พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และ Stockholm Metro ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่ภายในมีภาพศิลปะในอุโมงค์ความยาวกว่า 110 กิโลเมตร
  • พระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม (Drottningholm Palace): พระราชวังที่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดยบริเวณด้านหน้าจะติดกับทะเลสาบ ที่ภายในฤดูหนาวจะกลายเป็นน้ำแข็งสวยงาม พระราชวังดังกล่าวซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
  • กัมลา สตาน (Gamla Stan): ย่านเมืองเก่า ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของอดีตพระราชวังมาก่อน อาคารภายในย่านนี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน และมีสีสันที่สดใส

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศสวีเดน มีดังนี้

  • Fettisdagen: เทศกาลขนมหวานที่จัดขึ้นช่วงปลายกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นการกินดื่มอย่างเต็มที่ ก่อนเข้าสู่ช่วงอดอาหารก่อนเข้าวันอีสเตอร์ โดยเทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วง 40 วันก่อนวันอีสเตอร์
  • Midsummer festival (Midsommerdagen): เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูร้อน โดยจะมีจุดเด่นหรือกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การตั้ง Maypole ที่สนามหน้าบ้านหรือสวนสาธารณะ การเต้นรำพื้นบ้าน และการรับประทานอาหาร
  • Valborg: เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ โดยจัดในวันสุดท้ายของเดือนเมษายน ในช่วงยามค่ำคืนจะเทียบได้กับวันฮาโลวีน เพราะมีการก่อกองไฟขนาดใหญ่เพื่อไล่วิญญาณร้ายอีกด้วย

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

หากไปท่องเที่ยวในประเทศสวีเดน ก็มีกิจกรรมให้เลือกทำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเข้าพัก Ice Hotel ซึ่ง​​จำลองการอยู่อาศัยตามฉบับชาวเอสกิโมในอิกลูจำลอง การเดินชม Skansen ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของโลกในเมืองสตอกโฮล์ม หรือจะไปท่องเที่ยวสวนสนุก Grona Lund ซึ่งเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสวีเดน

ประเทศนอร์เวย์

8.ประเทศนอร์เวย์

หากกล่าวถึงประเทศนอร์เวย์ หลายๆ คนคงจะนึกถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “พระอาทิตย์เที่ยงคืน (The Midnight Sun)” หรือช่วงเวลาที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกินระยะเวลาหลายเดือน ซึ่งเกิดจากแกนโลกฝั่งขั้วโลกเหนือเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์

ประเทศนอร์เวย์ใช้ภาษานอร์เวย์เป็นภาษาราชการ สำหรับอาหารขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาด คือ เลฟซ่า (Lefse) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโรตีแผ่นใหญ่ๆ ทำจากมันฝรั่งต้มบด นิยมทาเนยและทำมาห่อไส้กรอก โดยของฝากจากประเทศนอร์เวย์ คือ ตุ๊กตาโทรล์ และของที่ระลึกรูปชาวไวกิ้ง

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

หากกำลังมองหาทิวทัศน์ทางธรรมชาติ หรือวิวสวยๆ ในโซนยุโรป คุณไม่ควรพลาดแลนมาร์กหล่านี้ของประเทศนอร์เวย์

  • เมืองออสโล (Oslo): เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ที่มีวิวธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น โรงละครโอเปราออสโล (Oslo Opera House) ศูนย์สันติภาพโนเบล (Nobel Peace Center) และป้อมปราการอาเกิชฮืส (Akershus Festning)
  • หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten): หมู่บ้านชาวประมงสีแดงบนโขดหินริมชายฝั่ง ฉากหลังเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนทางเหนือของประเทศ
  • เมืองเบอร์เกน (Bergen): เมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มีจุดเด่นคือโอบล้อมด้วยภูเขา 7 ลูก

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศนอร์เวย์ มีดังนี้

  • Oyafestivalen: เทศกาลดนตรีที่เก่าแก่อีกแห่ง จุดเด่นของงานอยู่ที่บริเวณที่จัดงาน คือ สวน Middelalderparken ซึ่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ที่มีอายุกว่าหลายร้อยปีของโบสถ์ St. Clement’s Church และโบสถ์ St. Mary’s Church
  • Gladmat Festival: เทศกาลอาหารที่ใหญ่ที่สุด โดยจะเน้นการผลิต วัตถุดิบ และวัฒนธรรมอาหารของประเทศกลุ่มนอร์ดิก ·                         
  • The Peer Gynt Festival: เทศกาลมีการจัดคอนเสิร์ต งานแสดง หรือการบรรยาย จัดขึ้นในหุบเขา Gudbrandsdalen โดยมีไฮไลต์ คือ การแสดง Peer Gynt ซึ่งเป็นบทละครความยาว 5 องก์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและระลึกถึง Peer Gynt บุคคลในประวัติศาสตร์ และผู้แต่งบทละครอย่าง Henrik Ibsen

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมที่น่าสนใจในประเทศนอร์เวย์มีให้เลือกมากหมาย หากคุณชื่นชอบธรรมชาติ หรืออยากชมวิวสวยๆ ในโซนยุโรป สามารถเลือกไปชมแสงเหนือ โดยการนั่งเรือ Hurtigruten หรือการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เมืองทรุมเซอ (Tromso) ในช่วงกลางพฤษภาคมถึงปลายกรกฎาคม หรือ สฟาลบาร์ (Svalbard) ในช่วงกลางเมษายนถึงปลายสิงหาคม เป็นต้น นอกจากนี้ หากชื่นชอบสถาปัตยกรรม สามารถไปที่เฮดดาล สตาฟเชิร์กยา (Heddal Stavkyrkje) ซึ่งเป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ ณ เมืองโนตอดเดน (Notodden)

ประเทศเบลเยียม

9.ประเทศเบลเยียม

เบลเยียมเป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวโซนยุโรป ที่ถือได้ว่าเป็น สวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต เพราะมีร้านช็อกโกแลตแสนอร่อยอยู่ตามตรอกหรือมุมต่างๆ รวมถึง มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเบียร์เช่นกัน นอกจากนี้ ประเทศเบลเยียมยังมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกมากมาย เช่น หอระฆัง Beffroi de Mons

ภาษาราชการในประเทศนี้ คือ ภาษาดัตช์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน สำหรับคนที่ต้องการซื้อของฝากจากเบลเยียมสามารถเลือกซื้อช็อกโกแลต เบียร์และแก้วเบียร์ สิ่งทอ หรือหนังสือการ์ตูนแบบเบลเยียม เป็นต้น

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

ประเทศเบลเยียมมีแลนมาร์กที่สำคัญหลายแห่ง เช่น

  • บรัสเซลส์ (Brussels): เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม มีจุดเช็กอินชื่อดังหลายแห่ง เช่น ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Brabantine Gothic หรือจัตุรัสกรองด์ ปลาซ (Grong Plas)
  • เมืองบรูจจ์ (Brugge): มรดกทะเลสาบแห่งเบลเยียม รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนขนาบน้ำ จนได้ชื่อว่าเป็น “The Venice of the North” รวมถึง เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญอย่าง หอระฆัง Beffroi de Mons และ Basilica of the Holy Blood อีกด้วย
  • จัตุรัสกรองด์ ปลาซ (Grong Plas): จัตุรัสที่งดงามสุดในยุโรป ใช้เป็นพื้นที่จัดเทศกาลพรมดอกไม้ในทุก 2 ปี

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศเบลเยียม มีดังนี้

  • Flower Carpet: เทศกาลพรมดอกไม้จัดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ ณ จัตุรัสกรองด์ปลาซ ปูด้วยดอกบีโกเนียกว่า 500,000 ดอก
  • Belgian Pride: เทศกาลเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในสังคม และรณรงค์เพื่อยุติการแสดงความเกลียดชัง หรือการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBTQ+ โดยมีขบวนพาเหรด และการประดับธงสีรุ้ง ที่สื่อถึงความหวังและความหลากหลาย
  • Kattenstoet: พาเหรดแมวที่จัดขึ้นมาแล้วกว่า 60 ปีที่เมือง Ypres เพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์การฆ่าแมวดำในยุคกลาง ที่ในยุคดังกล่าวเชื่อกันว่าเป็นแมวผี หรือสิ่งชั่วร้าย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในประเทศเบลเยียมมีมากมาย เช่น การท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมของสหภาพยุโรป (EU) ผ่านมินิยุโรป (Mini Europe) ซึ่งเป็นเมืองจำลองในสวนสาธารณะ ณ กรุงบรัสเซลส์ มีขนาดกว่าสามแสนตารางฟุต การเดินเพื่อสัมผัสบรรยากาศย่านกลางคืน ณ จัตุรัสเพลส เดอ เเกรนด์ ซาบอน (Place du Grand Sablon) หรือการเดินชมอะโตเมียม (Atomium) สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ประกอบด้วยวัตถุทรงกลม 9 ลูก

10.ประเทศเดนมาร์ก

ประเทศเดนมาร์ก ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดในโลก และยังเป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในโซนยุโรปอีกด้วย เพราะเป็นประเทศที่มีวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถาปัตยกรรมที่สำคัญหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศบ้านเกิดของนักประพันธ์และกนักปรัชญาชื่อดัง เช่น ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ผู้แต่งนิทานเรื่อง The Little Mermaid หรือ เซอร์เอิน เคียร์เกอกอร์ (Soren Kierkegaard) นักปรัชญาอัตถิภาวนิยม (Existentialism)

ภาษาราชการของประเทศเดนมาร์ก คือ เดนมาร์ก แฟโร กรีนแลนด์ และเยอรมัน สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารขึ้นชื่อ สามารถมาลิ้มลองแซนวิชเปิดหน้า Smorrebrod และปลา Plaice หรือหากอยากได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไป สามารถเลือกซื้อของกิน เช่น Licorice ซึ่งเป็นขนมหวานเคลือบช็อคโกแลต Toms Skildpadde ขนมช็อกโกแลตแบรนด์ดัง เบียร์คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg Beer) หรือของใช้และของตกแต่ง เช่น เครื่องประดับไวกิ้ง หรือจานเซรามิกลายครามสไตล์เดนมาร์ก เป็นต้น

สถานที่เที่ยวชื่อดัง

แลนมาร์กที่สำคัญในประเทศเดนมาร์ก มีดังนี้

  • เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen): เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก สามารถทำกิจกรรมได้มากมาย เช่น เดินเล่นที่ถนนสตรอยก์ (Stroget) แหล่งชอปปิงขนาดใหญ่ และสวนสนุกทิโวลี (Tivoli Gardens) ที่มีอายุกว่า 200 ปี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์
  • เมืองท่าออร์ฮูส (Aarhus): เมืองท่าที่สำคัญ ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีหลายแห่ง เช่น Den Gamle By พิพิธภัณฑ์โบราณที่ได้ Guide Michelin ระดับสามดาว หรือ ARoS Aarhus Art Museum พิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะที่มีจุดเด่น คือ จุดชมวิว 360 องศาที่ติดกระจกสีและไล่เป็นสีรุ้ง เรียกว่า “Rainbow Panorama”
  • บ้านเลโก้ (Lego House: Home of the Brick): อยู่ในเมืองบิลลันด์ มีตัวอาคารที่รูปร่างคล้ายการนำเลโก้มาต่อเข้าด้วยกัน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า กว่า 12,000 ตารางเมตร ภายในจัดแสดงศิลปะจากเลโก้โดยศิลปินระดับโลก

เทศกาลที่น่าสนใจ

เทศกาลที่น่าสนใจของประเทศเดนมาร์ก มีดังนี้

  • Roskilde Festival: หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีหลากหลายแนว
  • ​Copenhagen Pride: เป็นช่วงเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ โดยภายในงานจะมีการเดินขบวนพาเหรดที่จัตุรัส รวมถึง งานปาร์ตี้และงานเต้นรำตามบาร์และคลับท้องถิ่น
  • Night of Culture: เป็นเทศกาลทางวัฒนธรรมที่เปิดให้เยี่ยมชมจุดแลนมาร์กที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงเวลากลางคืนโดยมีมุมที่น่าสนใจกว่า 300 แห่งทั่วเมือง

กิจกรรมเด็ดๆ ไม่ควรพลาด

เดนมาร์กเป็นอีกประเทศที่มีกิจกรรมให้เลือกทำอย่างมากมาย เช่น การเยี่ยมชมพระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace) ซึ่งเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอบาโรก (Neo-Baroque หรือ Baroque Revival Architecture) หรือ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดนมาร์ก (National Museum of Denmark) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ของประเทศเดนมาร์ก นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่สำคัญ คือ การแวะถ่ายรูปนางเงือกบริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นตัวละครจากนิทานเรื่อง The Little Mermaid ที่เขียนโดยฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน

เมื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทางเท่านั้น แต่เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และเพิ่มความสุขให้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับประเทศน่าเที่ยวในยุโรปที่มีมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ที่มีเมืองสวยๆ หรือแม้แต่ในชนบทยุโรป ที่มีวิวสวยๆ พร้อมเทศกาลและกิจกรรมที่น่าสนใจซึ่งทุกคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง