ไม่ไปไม่ได้ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป สวยประทับใจจนไม่อยากกลับ

ยุโรปได้ชื่อว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ยังมีลมหายใจ เพราะอบอวลไปด้วยวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อที่ยังทิ้งร่องรอยไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งยังเปี่ยมสเน่ห์จากธรรมชาติที่สวยงาม ยุโรปจึงกลายเป็นจุดหมายในการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าจดจำไม่แพ้ที่ใดในโลก บทความนี้นำสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่สวยงาม น่าประทับใจจนอยากอยู่ต่อมาฝาก ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวยุโรป ขอบอกว่าห้ามพลาด

1. กรุงเอเธนส์

กรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ ในอดีตเป็นศูนย์กลางของปรัชญา ศิลปะ และการเรียนรู้ อีกทั้งอุดมไปด้วยความเชื่อที่เชื่อมโยงกับอียิปต์และเทพเจ้า ความขลังของเมืองนี้ทำให้เอเธนส์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่โดดเด่นด้านที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม อาทิ

• พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ กรุงเอเธนส์: พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ มีโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น เรือสำริด รูปปั้นทองคำ เครื่องประดับ ฯลฯ
• Acropolis of Athens: Acropolis  เป็นชื่อที่มักใช้เรียกป้อมปราการโบราณที่ตั้งอยู่บนเขาสูง ซึ่งมีอยู่หลายจุดในกรีซ แต่จุดที่ต้องปักหมุดมีชื่อว่า Acropolis of Athens อันประกอบด้วย วิหาร 3 แห่ง และโรงละคร 2 แห่ง ซึ่งล้วนแต่ได้ชื่อว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคกรีกโบราณ ในจำนวนวิหารนั้นมีแลนด์มาร์คที่โด่งดัง คือ วิหารพาร์เธนอน วิหารที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีอะธีนา เป็นวิหารที่มีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ และนับเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ดอริกที่ดีที่สุดในโลก
• จัตุรัส Syntagma: จัตุรัสนี้ตั้งอยู่ใกล้อะโครโพลิส สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ และเต็มไปด้วยร่องรอยวิถีชีวิต สังคม และการเมืองของกรุงเอเธนส์ในอดีต ปัจจุบันเป็นทั้งย่านเมืองเก่าและจุดพบปะของคนในพื้นที่ จึงมีบาร์ และร้านอาหารตั้งอยู่มากมาย ใครจะเข้าไปนั่งหลบแดดใกล้สนามหญ้า หรือชมน้ำพุก็ได้เหมือนกัน 

กิจกรรมที่น่าสนใจ

กิจกรรมที่น่าทำของที่นี่คือกิจกรรมสบายๆ อย่างการเดินเล่นชมสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ของเมือง ชมย่านเมืองเก่าอย่างจัตุรัส Syntagma และแวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์โบราณคดี

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณกลางเมษายน – มิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่เพราะเป็นช่วงเวลาทอง  จึงอาจจะต้องรีบจัดการหาที่พักก่อนจะเต็ม ส่วนช่วงต้นฤดูร้อน ประมาณกรกฎาคม – กันยายน ก็ถือเป็นช่วงที่ดีเช่นกัน เพราะอากาศดี แสงสวย และไม่ร้อนจนเกินทน แต่ราคาที่พักอาจเริ่มแพงขึ้นเพราะใกล้ฤดูกาลท่องเที่ยว

2. เมืองบาร์เซโลน่า

เมืองบาร์เซโลนา สเปน เป็นบ้านของสถาปัตกรรมหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ชิ้นงานที่ดังระดับโลก ไปจนถึงสถาปัตกรรมลับประจำท้องถิ่นที่รอให้ผู้คนมาค้นหา จะเก่าแก่ โมเดิร์น ผสมผสาน ฉีกแนว ที่นี่มีครบ อีกทั้งยังเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปยอดนิยม มาถึงบาร์เซโลน่าแล้ว ไม่ควรพลาดสถานที่เหล่านี้

• มหาวิหาร La Sagrada Familia: มหาวิหารสูงลิ่วที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลน่า และเจ้าของตำแหน่งมหาวิหารที่สูงที่สุดในโลก ผลงานของสถาปนิกเลื่องชื่อที่คนในวงการไม่มีใครไม่รู้จักอย่างอันตอนี เกาดี โดย La Sagrada Familia แห่งนี้ผสมผสานศิลปะกาตาลันสมัยใหม่ ศิลปะโกธิคสเปนตอนปลาย และศิลปะอาร์นูโวเข้าด้วยกัน
• ย่าน Gothic Quarter: ย่านที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง เป็นจุดรวมอาคารและบ้านเรือนสไตล์โกธิค แต่ก็มีศิลปะสไตล์อื่นๆ อย่างศิลปะโรมันผสมผสานอยู่ด้วย ที่นี่คับคั่งไปด้วยร้านอาหารแนวคาตาลัน บาร์ คลับ สตรีทฟู้ด แผงขายดอกไม้และเครื่องประดับที่เรียงรายตามแนวถนน แต่ขณะเดียวกันก็มีพิพิธภัณฑ์ที่บันทึกประวัติศาสตร์ไว้ให้กับผู้ที่สนใจเรียนรู้
• อาคารศิลปะ Casa Mila: อดีตอพาร์ทเมนต์ย่านคนรวยที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าชวนหัวฉบับท้องถิ่น เพราะการออกแบบที่ลึกล้ำไม่เหมือนใครในสมัยนั้น ทั้งตัวอาคารใหญ่อลังการ ดีไซน์หินคดโค้งคล้ายลายคลื่น หรือโมเสกจากเศษขวดเบียร์ อีกหนึ่งผลงานศิลปะสไตล์อาร์นูโวของอันตอนี เกาดีที่มีชื่อเสียงข้ามสมัย ปัจจุบันได้เลื่อนขั้นขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมประติมากรรมหินทรายได้บนชั้นดาดฟ้า

กิจกรรมที่น่าสนใจ

กิจกรรมที่น่าทำในบาร์เซโลน่คือการปั่นจักรยานชมเมือง ตระเวนกินอาหารจานเล็กหรือที่เรียกว่า ‘Tapas’ ตามรอยร้านอาหารมิชลินกว่า 20 ร้าน เลือกซื้อของฝากอย่างรองเท้าแตะผ้าใบซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากสเปน หรือเหล้าสมุนไพรวอลนัท ของขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้ แวะจุดชมวิว Bunkers del Carmel ที่ตื่นตาได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตก และตื่นใจต่อกับแสงไฟในบรรยากาศยามค่ำคืน

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงปลายพฤษภาคม – กรกฎาคม และช่วงปลายสิงหาคม – กันยายน ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน

3. กรุงปราก

กรุงปราก ในสาธารณรัฐเช็ก ที่เที่ยวยุโรปที่ขึ้นชื่อว่า ”เมืองอันสุดโรแมนติก” หนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานจนได้รับการยอมรับและรับรองจากองค์การยูเนสโก ภายในกรุงปรากจะมีที่ที่น่าสนใจ เช่น

•  ปราสาทปราก: ปราสาทโบราณที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก อดีตที่ประทับของเหล่าจักรพรรดิ กษัตริย์ และผู้นำสำคัญในสาธารณรัฐเช็ก มีทั้งพระราชวัง โบถส์ และสวนอยู่ภายใน ทั้งยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลายแนว อาทิ แนวโกธิค และแนวเรอเนซองซ์
•  หอคอย Old Town Hall: หอคอยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวที่ความสูงกว่า 70 เมตร พร้อมชมนาฬิกาดาราศาสตร์ซึ่งเป็นนาฬิกาที่เก่าแก่หาดูยากอีกแห่งหนึ่ง
• พิพิธภัณฑ์แห่งประสาทสัมผัส: พิพิธภัณฑ์ที่เปิดประสาทสัมผัสอันน่าพิศวง เพลินไปกับกระจกน้ำวน และมหัศจรรย์แห่งภาพลวงตาอื่นๆ อีกมากมาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ

ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยังจุดชมวิวกรุงปรากที่เรียกว่า Mount Petrin วิ่งเทรลรอบแม่น้ำ ​Svratka หรือปั่นจักรยานรอบเมืองกรุง และเที่ยวย่าน Mala Strana หนึ่งในเขตที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง พร้อมเข้าร่วมเทศกาลสนุกๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงพฤษภาคม – กันยายน เนื่องจากอากาศไม่ร้อน และไม่หนาวเกินไป หรือช่วงฤดูหนาวที่เป็นช่วงที่มีเทศกาลคริสต์มาส มีตลาดคริสต์มาสที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในปรากให้เดินจับจ่ายใช้สอยพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมรื่นเริง

4. นครวาติกัน

นครวาติกัน เป็นเมืองที่มีสถานะเป็นประเทศเอกราชแยกตัวออกมาจากอิตาลี และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปแห่งนี้เป็นเมืองเล็กเปี่ยมมนเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงใหลจนไม่อยากกลับ จะมีที่เที่ยวที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกัน

• มหาวิหาร Saint Peter’s Basilica: มหาวิหารที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนคร เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาองค์แรกของศาสนาคริสต์ สาเหตุที่ควรลองไปดูสักครั้งเพราะลวดลายการตกแต่งภายในวิหารงดงามอลังการ เต็มไปด้วยรูปสลักของบุคคลสำคัญในศาสนาคริสต์
• จัตุรัส Saint Peter’s Square: ลานจัตุรัสพื้นที่กว้าง ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรมัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ มีจุดเด่นคือเสาโอเบลิสก์สูง 25.5 เมตร สลักจากหินแกรนิตอียิปต์สีแดง ซึ่งเป็นเสาเดียวที่ไม่เคยถูกโค่นล้มมาตั้งแต่สมัยโรมัน และล้อมรอบด้วยแนวเสาอื่นๆ อีกจำนวนหลายสิบต้น ประดับด้วยรูปปั้นเทพปกรณัม เกิดเป็นความสวยงามที่คนหลงไหลตำนานเทพต่างๆ ไม่ควรพลาด
• พิพิธภัณฑ์วาติกัน: พิพิธภัณฑ์ที่เก็บสะสมผลงานทางศิลปะและของมีค่าของคริสตจักรอายุหลายร้อยปี ตั้งแต่ยุคอียิปต์ กรีก โรมัน และเรอเนซองส์ รวมถึงผลงานของศิลปินระดับโลกอย่างไมเคิล แองเจโล และราฟาเอล ภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็นห้องรวมกันมากกว่า 50 ห้อง เช่น ห้องซิสตินที่มีไฮไลต์เป็นภาพวาด The Creation of Adam ห้องอิยิปต์ ฯลฯ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

แวะชื่นชมหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์วาติกันที่รวมเอาชิ้นงานสำคัญสมัยกรีก-โรมันมาจัดแสดง รวมถึงเดินเล่นในสวนวาติกันที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม และดูใบมะกอกโอลีฟแบบชัดๆ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงปลายมิถุนายน – ปลายสิงหาคม เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป

5. เมืองอัมสเตอร์ดัม

เมืองมรดกโลกติดริมแม่น้ำ มาพร้อมบรรยากาศร่มรื่น ชุ่มฉ่ำไปด้วยความโรแมนติก มีโรงละคร สถานบันเทิง และพิพิธภัณฑ์กว่า 40 แห่งที่รวมผลงานศิลปะอันโดดเด่นไม่แพ้ที่เที่ยวยุโรปที่ไหน ไปดูกันว่าอัมเสตอร์ดัมแห่งเนเธอร์แลนด์มีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง

• พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม: เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเนเธอแลนด์ รวบรวมผลงานศิลปะกว่า 8,000 ชิ้น และตัวสถานที่ก็งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างโกธิคและเรอเนซองซ์
• พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ: แวนโก๊ะเป็นศิลปินชื่อก้องโลกที่ถูกกล่าวถึงและนำผลงานมาประยุกต์ในยุคปัจจุบันอยู่บ่อยครั้ง ภายในพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะมีการจัดแสดงภาพศิลปะของแวนโก๊ะมากมาย พร้อมกับบอกเล่าประวัติชีวิตอันแสนโศกที่แฟนคลับพลาดไม่ได้
• จัตุรัส Dam Square: จัตุรัสขนาดใหญ่ศูนย์กลางของเมือง สามารถมานั่งพักผ่อนชิลๆ เดินเล่น ลองชิมเมนูอร่อยตามร้านอาหาร แวะคาเฟ่ พร้อมดื่มด่ำความงามของพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม หรือจะเข้าไปชมอนุวสวรีย์แห่งชาติที่สร้างไว้รำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้เช่นกัน

กิจกรรมที่น่าสนใจ

อย่าพลาดกิจกรรมทางน้ำอย่างการล่องเรือชมความงดงามของเมืองที่เคยถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรการขนส่งสินค้า หรือจะปั่นจักรยานท่องเที่ยวรอบเมืองก็สามารถชมทิวทัศน์สวยงามได้ไม่ต่างกัน อีกหนึ่งกิจกรรมเก็บความประทับใจคือการถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์แห่งชาติซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็น จึงเหมาะกับการท่องเที่ยว และช่วงพฤษภาคม-กันยายนเป็นช่วงเข้าหน้าร้อนที่อากาศเริ่มอบอุ่น และไม่ค่อยมีฝน ทำให้เป็นอีกช่วงที่น่าท่องเที่ยวเช่นกัน

6. เมืองแมนเชสเตอร์

สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปอีกที่ที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ๆ คือ แมนเชสเตอร์ ณ อังกฤษ เมืองที่โด่งดังมากในเรื่องกีฬา และยังโดดเด่นในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการค้า โดยถือเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก มีที่เที่ยวที่น่าสนใจทั้งโรงละคร ลานสกี จุตรุส ร้านค้า ฯลฯ มีสถานที่ขึ้นชื่อ เช่น

• พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม: พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บอกเล่าความเก๋ามาตั้งแต่ที่ตั้ง เพราะตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และรวมเอาประวัติอุตสาหกรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา มีของเด็ด เช่น เครื่องทำน้ำจากยุคอุตสาหกรรม และรถวินเทจ
• มหาวิหารแมนเชสเตอร์: อาคารประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมในยุคกลาง เคยเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาก่อน ปัจจุบันบูรณะด้วยการใช้ไม้สร้างเลียนแบบของเก่า ซึ่งยังคงความสวยงามไว้ได้ดังเดิม มีทั้งงานแกะสลักไม้ ประติมากรรมรูปเมดูซ่าทองคำ และประติมากรรมรูปการ์กอยที่เป็นที่พูดถึง
• ศาลาว่าการแมนเชสเตอร์: อาคารสไตล์นีโอกอธิค ที่ตั้งของสภาเมือง โดดเด่นด้วยระฆังความสูงที่ 285 ฟุต และจิตกรรมฝาผนังที่แสดงถึงความเป็นมาของการศึกษา การค้า อุตสาหกรรมสิ่งทอ ด้านในมีรูปปั้นของนักฟิสิกส์และนักเคมีที่มีชื่อเสียง

กิจกรรมที่น่าสนใจ

เดินชมสนามฟุตบอล Old trafford พร้อมเยือนถิ่นทีมฟุตบอลสโมสร Manchester United ต่อด้วยไปเที่ยวจัตุรัสอัลเบิร์ต แหล่งรวมงานเทศกาลและจุดนัดฉลองการแข่งขันฟุตบอลนัดต่างๆ หรือจะไปเยี่ยมความอลังการของห้องสมุด John Rylands Library ที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ก็ได้ ก่อนกลับก็ไปแวะเล่นสกีในที่ร่มที่ยาวที่สุดในอังกฤษอย่าง Chill Factore เท่านี้ก็สนุกครบ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงอากาศที่อุ่นจะอยู่ช่วงปลายมิถุนายน – ปลายสิงหาคม ถ้าใครอยากสัมผัสอากาศเย็น แนะนำช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม อุณหภูมิจะต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส

7. นครปอมเปอี

เดิมทีนครปอมเปอีเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยของชาวโรมันที่มีความมั่งคั่ง จนกระทั่งเกิดตำนานโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากภูเขาไฟวิสุเวียสและนำไปสู่การล่มสลาย แต่ในปัจจุบันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่น่าสนใจ

•  พิพิธภัณฑ์ Antiquarium: พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของปอมเปอิผ่านวัตถุโบราณ และโครงมนุษย์ที่เคยถูกฝังด้วยลาวาอันเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส
• โรงละคร Teatro Grande: โรงละครที่มีความจุประมาณ 5,000 ที่นั่ง เป็นโรงละครแห่งแรกที่สร้างขึ้นจากหินโดยชาวโรมัน รองรับทั้งโอเปรา ละครเวที บัลเลต์ เต้นรำ คอนเสิร์ต และการแสดงสมัยใหม่ต่างๆ
• วัด Isis: วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาให้กับเทพธิดาไอซิส ซึ่งเป็นเทพีแห่งอียิปต์ เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์และฟื้นฟูอย่างดี ทำให้คงกลิ่นอายดั้งเดิมเอาไว้ได้

กิจกรรมที่น่าสนใจ

เดินชิลๆ เที่ยวถนนสายหลัก หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศนั่งรถม้าชมเมือง พร้อมแวะเติมพลัง นั่งจิบไวน์ตามร้านอาหาร หรือบาร์ที่มีอยู่สองฟากฝั่งถนนก็ได้เช่นกัน

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ปอมเปอีจะมีช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมในต้นปีถัดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแออัดขึ้น

8. เมืองลูเซิร์น

สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ต่อไปที่น่าสนใจคือเมืองลูเซิร์น จุดศูนย์กลางของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประวัติศาสตร์มานานนับพันปี อีกทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

• Chapel Bridge หรือ Kapellbrücke: สะพานไม้ข้ามแม่น้ำร็อยส์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของยุคกลางที่มีอายุหลายร้อยปี และนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้ที่สวยงามโดดเด่น
• ภูเขา Pilatus: ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ขึ้นชื่อเรื่องทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก ทำให้การนั่งรถไฟขึ้นยอดเขาแห่งนี้ตื่นเต้นและมาพร้อมกับทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกใหม่ ต่อจากรถไฟ ก็สามารถเดินเท้าต่อได้ ซึ่งตลอดทางจะมีราวบันไดให้จับอย่างดี
• ย่านเมือง Old Town: ย่านเมืองเก่าที่มีไฮไลต์สำคัญ เช่น ที่ว่าการ Altes Rathaus จตุรัสเมืองเก่าที่เคยเป็นตลาดมาก่อน และโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง St. Peter’s Chapel

กิจกรรมที่น่าสนใจ

แนะนำกิจกรรมนั่งรถไฟจากภูเขาริกิเพื่อชมวิวทะเลสาบและทะเลหมอกยามเช้า แวะชมอนุสาวรีย์สิงโตขนาดใหญ่แกะสลักจากหิน ที่ชื่อว่า ‘Löwendenkmal’  หรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำในบรรยากาศเย็นสบาย

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

ช่วงมิถุนายน – กันยายน เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ 12 -24 องศาเซลเซียสโดยประมาณ

9. เมืองบอร์โจมิ

เมืองบอร์โจมิในจอร์เจีย อีกหนึ่งที่เที่ยวยุโรปที่สดชื่นและน่าสนใจ ขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งน้ำแร่ รวมถึงสภาพภูมิประเทศที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัส นอกจากนั้น ยังมีสถานที่เที่ยวสวยๆ เช่น

• อุทยาน Kharagauli National Park: อุทยานที่ใหญ่ที่สุดในจอร์เจีย ล้อมรอบด้วยพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และระบบนิเวศที่หลากหลาย อุดมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด ทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ เดินป่า ขี่ม้า หรือขี่จักรยาน
• แม่น้ำ Mtkvari: แม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองหลวงเก่าของจอร์เจียไปลงทะเลสาบแคสเปี้ยน ที่นี่เปิดให้ล่องแก่งได้ 6 คน/1 ลำ โดยจะมีบริการในส่วนของอุปกรณ์ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
• ท่องเมืองบอร์โจมิ: บอร์โจมิเป็นเมืองตากอากาศ บรรยากาศดี เป็นแหล่งน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศ และเป็นแหล่งที่ส่งออกมากที่สุดของประเทศ มีบ่อน้ำร้อนสำหรับให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

บอร์โจมิเป็นเหมือนเมืองตากอากาศในจอร์เจีย จึงเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินเทรลหิมะ แช่บ่อน้ำร้อน ขี่ม้า ปีนเขา แวะเล่นสกีที่เมืองสกีรีสอร์ทบนภูเขาหิมะที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้เทือกเขาแอลป์ แล้วเปลี่ยนบรรยากาศมาเข้าเมือง Batumi ที่มีการผสานกันระหว่างวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและแบบยุคใหม่ พร้อมวิวบ้านเรือนที่อยู่ริมทะเลดำ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

แนะนำช่วงมีนาคม – พฤษภาคม ที่เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศกำลังเย็นสบายและมีโอกาสฝนตกน้อย อุณหภูมิจะอยู่ที่ 10 – 24 องศาเซลเซียส

10. ปราสาทนอยชวานชไตน์ เมืองมิวนิค

ส่งท้ายด้วยที่เที่ยวยุโรปสุดเพอเฟกต์สำหรับสาวกดิสนีย์ เพราะปราสาทนี้เป็นต้นแบบของปราสาทในเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ภูเขาหินผาที่สูงกว่า 200 เมตร รายล้อมด้วยธรรมชาติ และมีสะพานเรียงทอดยาวเชื่อมต่อระหว่างปราสาทและเกาะ มีห้องทั้งหมด 14 ห้อง ตกแต่งด้วยภาพวาดและตำนานต่างๆ อาทิ ห้องจัดแสดงอุปรากร ห้องราชบัลลังค์ ห้องบรรทมสไตล์โกธิค

กิจกรรมที่น่าสนใจ

เดินทอดน่องชมวิถีของชาวมิวนิคที่ตลาดวิคทูอาเลียน ตลาดกลางแจ้งขนาดใหญ่มีสินค้าหลากหลายทั้งดอกไม้ เนย ผลไม้ และเครื่องเทศ หากเมื่อยล้าจากการเดินก็แวะพักจิบเบียร์ที่ โฮฟบรอยเฮาส์ โรงเบียร์เก่าแก่ของเมืองมิวนิค พร้อมชมการแสดงเต้นรำพื้นบ้าน

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

แนะนำช่วงพฤษภาคม – กลางมิถุนายน เพราะช่วงพฤษภาคมเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ธรรมชาติมีสีสันสวยงาม แบะอากาศเย็นสบาย ถ้าหลังจากนี้ไปอากาศจะร้อนจัด แต่หากใครต้องการไปสัมผัสกับอากาศหนาวแนะนำช่วงมกราคม อุณภูมิเฉลี่ยที่ 1 – 23 องศาเซลเซียส

ถ้าพูดถึงประเทศน่าเที่ยวในยุโรป ต้องขอบอกว่าแต่ละที่ก็มีมนต์สเน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศิลปะในแต่ละยุคแต่ละสมัยที่ต่างกัน แต่รับรองว่าหากใครได้มีโอกาสไปสัมผัส 10 ที่เที่ยวยุโรปที่คัดมาให้วันนี้ ต้องติดใจไม่อยากกลับกันอย่างแน่นอน