fbpx

เที่ยวอังกฤษกับ 13 แลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยว บินลัดฟ้าตะลุยเมืองผู้ดี

ประเทศอังกฤษ ประเทศมหาอำนาจเก่าที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งยังไม่ได้มีดีแค่เมืองหลวงอย่างลอนดอน แต่ยังมีเมืองอื่นๆ ให้ได้ตะลุยเที่ยวกันอย่างจุใจ ครบทุกสไตล์ภายในที่เดียว มาสัมผัสเมืองมากเสน่ห์ และสถาปัตยกรรมที่น่าหลงใหลไปพร้อมกันได้ในบทความนี้เลย

ทำความรู้จัก อังกฤษ ประเทศแห่งเมืองผู้ดี

ทำความรู้จัก อังกฤษ ประเทศแห่งเมืองผู้ดี

ประเทศอังกฤษนั้นลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบต่ำ และมีเนินเขา มีประเทศที่อยู่ติดกันคือ สกอตแลนด์ และเวลส์ ด้วยประเทศที่เป็นหมู่เกาะจึงมีทะเลที่อยู่ติดกันอย่างทะเลไอร์แลนด์ ทะเลเคลติก ทะเลเหนือ และช่องแคบอังกฤษ สภาพอากาศส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีฝนตก โดยอังกฤษนั้นมี 4 ฤดูกาล คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง 

จุดเด่นของประเทศนี้คงหนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวประจำอังกฤษ ที่มีทั้งสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้ได้เดินชมรอบเมือง เป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ มีแลนด์มาร์คสำคัญอย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบน และมีหอศิลป์ที่เอาใจคนชอบศิลปะ เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิตให้ได้เลย

รวมแลนด์มาร์ค 13 ที่เที่ยวอังกฤษ ที่น่าสนใจ

รวมแลนด์มาร์ค 13 ที่เที่ยวอังกฤษ ที่น่าสนใจ 

คนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวประเทศอังกฤษ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนก่อนดี ต้องลองดูสถานที่เที่ยวต่อไปนี้ เพื่อใช้เป็นไกด์สำหรับการวางแผนการเดินทางได้

1. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

แท่งหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบซอลส์บรี ตอนใต้ของอังกฤษ สร้างขึ้นประมาณ 3000–2000 ปีก่อนคริสตกาล มีจำนวน 112 ก้อน จัดวางในแนวตั้ง แนวนอน และวางซ้อนกันเป็นวงกลม มีการคาดกันว่าก้อนหินอาจจะถูกลากมาจากทุ่งมาร์ลโบโรที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร และสโตนเฮนจ์ถูกยกให้ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวสุดพิศวงของอังกฤษ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมายเลยทีเดียว ช่วงที่แนะนำสำหรับการมาท่องเที่ยวเย็นๆ เพราะจะได้ชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกได้

  • ข้อมูลการเดินทาง :  นั่งรถไฟจากสถานี Waterloo มาลงสถานี Salisbury และต่อด้วย Stonehenge Tour Bus
  • พิกัด : Stonehenge 
  • เวลาเปิด-ปิด :  09.30 – 19.00 น.

2. หอนาฬิกา Big Ben

หอนาฬิกาบิ๊กเบน แลนด์มาร์คใจกลางลอนดอน เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ สร้างขึ้นในปี 1834 เพื่อฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยมีความสูง 96.3 เมตร ซึ่งนับเป็นหอนาฬิกาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินชมรอบๆ บนสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ได้ หากไปเที่ยวอังกฤษช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้เจอกับบรรยากาศดอกไม้สวยๆ อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่น

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Westminster
  • พิกัด : Big Ben
  • เวลาเปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง

3. วิหารเมืองยอร์ก (York Minster and Historic Yorkshire)

วิหารเมืองยอร์ก อาสนวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองยอร์ก โดยเริ่มต้นจากการเป็นโบสถ์ไม้ และถูกสร้างขึ้นปี 627 เพื่อสำหรับพิธีล้างบาปให้แก่กษัตริย์เอ็ดวิน ต่อมาได้สร้างโบสถ์ที่ถาวรขึ้นปี 630 และเป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งของอาร์ชบิชอปแห่งยอร์กจุดเด่นอยู่ที่ Great East Window หน้าต่างกระจกสีบานใหญ่ โดยทิศเหนือของกางเขนมีหน้าต่าง Five Sisters Window และทิศใต้ Rose Window หน้าต่างกุหลาบ หากมาเที่ยวอังกฤษในช่วงหน้าร้อน หรือฤดูใบไม้ร่วงก็จะทำให้เห็นวิวบนจุดหอคอย สามารถชมวิวได้อย่างเต็มตา

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี King’s Cross มาลงสถานี York
  • พิกัด : York Minster
  • เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-เสาร์ 09.30 – 16.00 น. / อาทิตย์ 12.45 – 15.15 น.

โบสถ์ Canterbury

4. โบสถ์ Canterbury 

โบสถ์นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 597 เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,400 ปี อยู่ในใจกลางเมืองแคนเทอร์เบอรี โดยมีชื่อทางการว่า “อาสนวิหารและคริสตจักรมหานครของพระคริสต์ เมืองแคนเทอร์เบอร์รี” เป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี และเป็นที่ตั้งอาสนนักบุญออกัสติน ภายนอกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโรมัน และโกธิก ภายในตกแต่งด้วยรูปปั้น มีงานแกะสลักที่งดงาม และหน้าต่างกระจกที่มีสีสัน โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ หาสนใจอยากมาที่นี่ แนะนำให้มาเที่ยวอังกฤษช่วงหน้าร้อน เพราะจะได้เดินเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี  St Pancras หรือ King’s Cross มาลงสถานี Canterbury west หรือสถานี Charing Cross มาลงสถานี Canterbury East
  • พิกัดCanterbury Cathedral
  • เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.

5. โรงอาบน้ำโรมัน และบ้านสมัยจอร์เจี้ยน (The Roman Baths and Georgian City of Bath)

โรงอาบน้ำที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี อยู่ที่เมืองบาธ และมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง โดยถูกสร้างขึ้นสมัยที่ชาวโรมันบุกมายึดเกาะอังกฤษ ถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา การชำระร่างกาย และเป็นที่สำหรับพักผ่อนภายในแบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ บ่อน้ำพุ วิหารโรมัน ห้องอาบน้ำของชาวโรมัน และพิพิธภัณฑ์ให้ได้เดินสำรวจกัน ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมแบบโรม ที่เที่ยวอังกฤษแห่งนี้น่าจะถูกใจแน่นอน และที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีอีกด้วย

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี London Paddington มาลงสถานี Bath Spa
  • พิกัดThe Roman Baths
  • เวลาเปิด-ปิด :  จันทร์-ศุกร์ 10.00 – 18.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 09.00 – 18.00 น.

หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)

6. หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)

ใครที่ชอบศิลปะ ไม่ควรพลาดที่เที่ยวอังกฤษแห่งนี้ เพราะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และถูกยกย่องให้เป็นหอศิลป์ชั้นนำของโลก ซึ่งได้รวบรวมงานศิลปะของศิลปินระดับโลก เช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี และปิกัสโซ่ อีกทั้งยังมีผลงานของศิลปะของยุคสมัยอื่นๆ มากกว่า 2,000 ภาพให้ได้เดินชม

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการ งานแสดงกลางแจ้งที่จะหมุนเวียนมาจัดงานตามช่วงเทศกาลต่างๆ เนื่องจากหอศิลป์ใหญ่พอสมควร ถ้าใครอยากเดินชิลๆ ก็แนะนำไปช่วงฤดูร้อน เพราะพระอาทิตย์จะตกช้ากว่า ทำให้สามารถเดินชมงานศิลปะได้เพลินๆ นั่นเอง

  • ข้อมูลการเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน มาลงสถานี Charing Cross
  • พิกัด : National Gallery
  • เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น.

7. อุทยานแห่งชาติ Lake District 

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอังกฤษ Lake District หรือเลกแลนด์ (Lakeland) เป็นอุทยานที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 2,362 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบ และเป็นที่ตั้งของสกอเฟลล์ไพก์ (Scafell Pike) ยอดเขาที่สูงที่สุดในอังกฤษอีกด้วย

ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ล่องเรือชมทะเลสาบ เดินเขา และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ซึ่งหากมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศดอกไม้สวยๆ ต้นไม้สีเขียวชอุ่ม และลิ้มรสสัมผัสของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

  • ข้อมูลการเดินทาง :  นั่งรถไฟจาก London Euston มาลงสถานี Oxenholme Lake District
  • พิกัดLake District National Park
  • เวลาเปิด-ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง

สวนสัตว์เชสเตอร์ (Chester Zoo)

8. สวนสัตว์เชสเตอร์ (Chester Zoo)

สวนสัตว์แห่งเมืองเเชสเตอร์ และเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดของยุโรป เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีแหล่งรวมสัตว์นานาชนิดกว่า 12,000 ชีวิตหรือ 400 สปีชีส์ มีพื้นที่ 125 เอเคอร์ ทำให้แต่ละโซนสัตว์ต่างๆ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระภายในพื้นที่ของตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีการจำลองธรรมชาติเสมือนจริงที่เหมาะกับสัตว์แต่ละชนิดอีกด้วยการเข้าชมสวนสัตว์ จะใช้รถรางพาชมสถานที่สำคัญ เช่น ที่อยู่ของนกเพนกวิน ลิงชิมแปนซี และสัตว์ต่างๆ สวนสัตว์ก็เปิดให้บริการตลอดทั้งปี หากใครมาเที่ยวอังกฤษก็สามารถมาเที่ยวได้ตลอด

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี  Bache 
  • พิกัด : Chester Zoo
  • เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 16.00 น.

9. ย่านโรงละคร West End Theatre

ย่านโรงละครชื่อดังแห่งลอนดอน เต็มไปด้วยผลงานละครเพลงที่มีชื่อเสียง และโชว์ต่างๆ เนื่องจาก สถานที่นี้อยู่ไม่ไกล จากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ สมัยก่อนที่แห่งนี้ จึงเป็นที่อยู่อาศัยของคนชนชั้นสูงที่เที่ยวของอังกฤษ ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูงานละครเพลง จากบทประพันธ์ต่างๆ และหลังดูจบแล้ว ก็เดินเล่นรอบๆ ได้อีกด้วย มีร้านอาหารให้ได้ฝากท้อง มีพิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรี่ ให้ได้เดินชม หากไปช่วงหน้าหนาว ที่มืดเร็วกว่าปกติ ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศแสงสียามค่ำคืน

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน มาลงที่สถานี Leicester Square
  • พิกัด : West End
  • เวลาเปิด-ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง

พิพิธภัณฑ์สงคราม (Churchill War Rooms)

10. พิพิธภัณฑ์สงคราม (Churchill War Rooms)

ใครชอบประวัติศาสตร์สงคราม ที่เที่ยวอังกฤษก็มีให้ได้เดินชม และศึกษา เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามโลกที่เวสต์มินสเตอร์ สร้างขึ้นในปี 1936 เพื่อเป็นกองบัญชาการของกองทัพอากาศ ต่อมานายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล ก็ได้ใช้ที่แห่งนี้เพื่อเป็นกองบัญชาการรบ

มีการจัดแสดงชุดทหาร อุปกรณ์ทางการรบ และชมห้องนอนของวินสตัน เชอร์ชิล เนื่องจากจำลองมาจากสถานที่จริง จึงทำให้ภายในอาจคับแคบไปเล็กน้อย แนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศกำลังดี และสามารถเดินชมเมืองต่อได้

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน มาลงสถานี Westminster
  • พิกัด : Churchill War Rooms
  • เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 18.00 น

11. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Tate Modern

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนชอบศิลปะ หากใครมาอังกฤษต้องห้ามพลาด  เป็นอาร์ตแกลลอรี่ใจกลางลอนดอนที่มีอาคารถูกดัดแปลงมาจากโรงไฟฟ้า Bankside Power Station ทำให้หอศิลป์นี้มีเอกลักษณ์ และดูทันสมัย

ภายในหอศิลป์เต็มไปด้วยงานศิลปะสมัยใหม่ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย งานภาพยนตร์ และงานอื่นๆ จากศิลปินระดับโลกที่มีชื่อเสียง มีมุมหนังสือ ร้านกาแฟให้เลือกนั่งได้ตามสบาย มีจุดชมวิวให้ได้มาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี และยังได้ดูบรรยากาศของแม่น้ำเทมส์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูอีกด้วย

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน มาลงสถานี Southwalk
  • พิกัด : Tate Modern
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 18:00 น.

โปรเจ็ค อีเดน (Eden Project)

12. โปรเจ็ค อีเดน (Eden Project)

พาไปดูที่เที่ยวของอังกฤษที่สวยงามแบบล้ำๆ ที่เมืองคอร์นวอลล์ เป็นโครงการที่รวบรวมพืชจากทั่วโลก เพื่อมาทดลองเพาะปลูก จุดเริ่มต้นเกิดจากแนวคิดของ ทิม สมิท ที่มีวิสัยทัศน์การรวบรวมพืชพันธุ์จากทั่วโลก จึงได้มองหาพื้นที่เพื่อก่อสร้าง จนมาพบกับที่พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างขึ้นมา

มีจุดเด่นอยู่ที่โดมเรือนกระจก คล้ายกับอิกลู ภายในโดมได้จำลองระบบนิเวศ ได้แก่ เขตร้อน และเขตอบอุ่น มีสวนที่จัดแสดง มีจุดชมวิวสำหรับป่าฝนในร่ม ภายนอกโดมเป็นแปลงดอกไม้ และพื้นที่สำหรับเด็กๆ การเที่ยวชมสวนอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน แนะนำให้มาช่วงหน้าร้อนก็จะดีกว่า หรือมาช่วงดอกไม้กำลังสวยๆ อย่างฤดูใบไม้ผลิก็ได้เช่นกัน

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Charing Cross มาลงสถานี Eden และต่อรถบัสอีก 30 นาที
  • พิกัด : Eden Project
  • เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 18:00 น.

13. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศลอนดอน (The Royal Air Force Museum London)

คนที่ชอบเครื่องบินรบไม่ควรพลาดที่เที่ยวอังกฤษ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 เพื่อรวบรวมเครื่องบินเก่าที่กองทัพเก็บรักษามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มาจัดแสดงโชว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับทหาร และเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมภายในอาคารจะแบ่งเป็นโซนเครื่องบินในอดีตกว่า 100 ลำ โซนประวัติศาสตร์การบิน อาคารเครื่องบินทิ้งระเบิด และอาคารจัดแสดงอื่นๆ โดยที่เที่ยวจะเปิดบริการตลอดทั้งปี ใครไปเที่ยวอังกฤษก็สามารถเข้าไปชมกันได้ตลอดเลย

  • ข้อมูลการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Northern line มาลงสถานี Colindale
  • พิกัด : Royal Air Force Museum London
  • เวลาเปิด-ปิด : 10.00-17.00 น.

การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวอังกฤษ

การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวอังกฤษ

การไปสถานที่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่ว่าจะในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางให้เรียบร้อย เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด คนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวอังกฤษ และไม่รู้ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เรามีคำตอบมาไว้ให้แล้ว

  • เช็กช่วงฤดูที่จะเดินทาง เพื่อที่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับอากาศ
  • การเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ จำเป็นต้องยื่นวีซ่าก่อนทุกครั้ง
  • เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม เช่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต และวีซ่า
  • หาข้อมูลของสนามบินให้รอบคอบ เพราะจะได้วางแผนที่พักได้ถูก
  • วางแผนการเดินทางให้ชัดเจน เพื่อจะได้จองโรงแรม และตั๋วเครื่องบินไป-กลับได้ถูกต้อง
  • อังกฤษมีขนส่งสาธารณะทั่วเมือง เช่น รถบัส รถไฟ หรือรถไฟใต้ดิน แนะนำให้ซื้อ Oyster Card จะประหยัดเงิน และเดินทางสะดวกกว่า
  • จำเป็นต้องพกอะแดปเตอร์ไปด้วย เพราะปลั๊กไฟอังกฤษเป็นปลั๊กสี่เหลี่ยม 3 ขา

เรียนรู้ข้อห้าม และข้อควรระวังก่อนไปเที่ยวอังกฤษ

เรียนรู้ข้อห้าม และข้อควรระวังก่อนไปเที่ยวอังกฤษ

ทุกๆ สถานที่ หรือทุกประเทศจะมีวัฒนธรรม และมีมารยาทที่คนต่างถิ่นอาจไม่รู้ หากไม่ศึกษาก่อนไปก็อาจเกิดเรื่องผิดพลาดจนเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยว ซึ่งข้อห้าม และข้อระวังของการไปเที่ยวอังกฤษ มีดังนี้

  • ไม่พูดเลียนแบบสำเนียง เพราะสำเนียงมีมากถึง 56 สำเนียง หากเราพูดเลียนแบบก็อาจดูเสียมารยาท
  • เมื่อไปบ้านคนอื่น ก็ควรมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปด้วยเสมอ
  • เอื้อเฟื้อที่นั่งให้กับ สตรี เด็ก คนชรา และคนพิการ
  • มารยาทบนโต๊ะอาหาร ต้องทานอาหารด้วยความสำรวม ไม่มูมมาม และไม่ใช้มีดจิ้มอาหาร
  • ควรตรงต่อเวลา เพราะคนอังกฤษถือว่าการรักษาเวลา เป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับการรักษาคำพูด
  • ไม่ว่าจะรอคิวจ่ายเงินที่ร้านค้า ต่อขึ้นรถบัส หรือรถไฟ ก็ควรต่อคิว และไม่แซงคิวคนก่อนหน้า
  • มารยาท และข้อควรระวังในการสนทนา ไม่ควรถามเรื่องอายุ และน้ำหนัก

สรุป

อังกฤษเป็นเมืองสถาปัตยกรรม มีสถานที่เที่ยวสำคัญหลายแห่ง ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ บรรยากาศดี อาหารอร่อย จนทำให้ประเทศอังกฤษเป็นอีกประเทศที่หลายคนอยากมาเที่ยวกัน ก่อนจะไปเที่ยวอังกฤษ ก็อย่าลืมเตรียมตัว และศึกษามารยาท กับข้อห้ามก่อน เพราะหากไปแล้วเกิดทำอะไรผิดพลาด ก็อาจทำให้ทริปหมดสนุกได้

ถ้าต้องการไปเที่ยวอังกฤษแต่ไม่อยากเสียเงินเยอะ ไม่อยากยุ่งยากเรื่องวีซ่า สถานที่ท่องเที่ยวในไทยบรรยากาศคล้ายอังกฤษที่ให้บรรยากาศของยุโรป มาที่ Rancho Charnvee Resort ได้ เพราะมีกลิ่นอายของยุโรปที่น่าตื่นตาตื่นใจ และกิจกรรมมากมายให้ได้ทำกัน ที่สำคัญคืออยู่แค่ในประเทศไทยนี่เอง