fbpx

รวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ

หลังจากทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการสำหรับโควิด-19 ลงนั้น ทำให้เหล่าผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในการท่องเที่ยวเริ่มวางแผนเตรียมเก็บกระเป๋า เพื่อออกไปใช้ชีวิตหลังจากที่ต้องขลุกอยู่บ้านกันมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับใครที่อยากจะเที่ยวใกล้ๆ เดินทางไม่นาน บทความนี้จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพโดยใช้เวลาระยะสั้นๆ แบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้า-เย็นกลับ มาให้ทุกท่านได้เลือกไปสัมผัสกับช่วงเวลาและบรรยากาศที่จะช่วยให้คุณลืมความวุ่นวายจากตัวเมืองไปได้ในชั่วขณะมาฝากกัน

1. ทริปไหว้พระ 9 วัด พร้อมแวะเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา จ. พระนครศรีอยุธยา

1. ทริปไหว้พระ 9 วัด พร้อมแวะเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา จ. พระนครศรีอยุธยา

อยุธยาเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพ สามารถดินทางได้อย่างสะดวกสบาย จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่หลายคนเลือกมาพักผ่อนในวันหยุด โดยเฉพาะใครที่เป็นสายทำบุญ ชอบเข้าวัด ไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคลถือว่าเหมาะมากๆ เพราะอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีวัดมากมาย การจัดทริปไหว้พระ 9 วัดก็สามารถทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาเพียงหนึ่งวันก็สามารถเก็บได้ครบทั้ง 9 วัด โดยเริ่มจากวัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนาราม วัดพระงาม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดราชบูรณะ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร และวัดโลกยสุธาราม 

หลังจากอิ่มบุญแล้วก็ต้องหาอาหารเติมเต็มความหิวที่ตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีเนื้อที่กว่า 60 ไร่ มีที่จอดรถกว้างขวาง ที่สำคัญภายในตลาดประกอบด้วยร้านค้าจำนวนมากกว่า 250 ร้าน แต่ละร้านจะตั้งอยู่รอบแม่น้ำ ซึ่งจะอยู่บริเวณตรงกลาง นอกจากนี้ตลาดน้ำอโยธยายังมีสินค้า OTOP พื้นบ้านมากมายหลายอย่างให้เลือกชืม ช็อปได้อย่างเพลินเพลิด โดยเฉพาะขนมไทยพื้นบ้านที่เรียกได้ว่าเป็นของขึ้นชื่อ มาถึงแล้วจะต้องหาชิมให้ได้ 

ตลาดน้ำอโยธยาตั้งอยู่ที่ 65/19 หมู่ที่ 7 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เวลาที่เปิดให้เข้าชม : 09.00-18.00 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ : 0-3588-1733

2. สวนพฤกษศาสตร์พุแค จ.สระบุรี

2. สวนพฤกษศาสตร์พุแค จ.สระบุรี

สวนพฤกษศาสตร์พุแค จ.สระบุรีนั้น ถือได้ว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2484 มีเนื้อที่ทั้งหมด 5,554 ไร่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นสถานที่ต้นแบบในการอนุรักษ์ รวบรวมพรรณพืชหลากหลายชนิด เพื่อใช้สำหรับการศึกษา เรียนรู้และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์พืช อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อีกด้วย 

นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ ยังมีตลาดหัวปลี ซึ่งเป็นตลาดที่มีบรรยากาศเย็นสบายและร่มรื่น เนื่องจากรายล้อมไปด้วยต้นไม้ นาบัว และสวนไผ่ ซึ่งภายในตลาดมีอาหาร ของกิน น้ำผักต่างๆ รวมถึงผักสดปลอดสารพิษที่ชาวบ้านนำมาขาย ตลาดหัวปลีแห่งนี้เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ หากท่านใดต้องการของสดและถูก แถมยังปลอดสารพิษสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น

สวนพฤกษศาสตร์พุแคตั้งอยู่ที่ เลขที่ 123 ม.1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

เวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 นาฬิกา

เบอร์ติดต่อ 036-347-457

3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา

3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นับได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของประเทศไทย ที่มีพื้นที่ 1,355,468 ไร่ ครอบคลุม 5 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประมาณ 721,260 ไร่ หรือคิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อคุ้มครองดูแลทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพื้นที่ธรรมชาติ รวมทั้งทรัพยากรที่หาได้ยากในพื้นที่ เพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีบริการด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมนันทนาการ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป โดยภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดูนก ตั้งแคมป์ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ดูดาว ส่องสัตว์ตอนกลางคืน และล่องแก่ง สำหรับการเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตั้งอยู่ที่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130 

เวลาที่เปิดให้เข้าชม เวลาเปิด-ปิดอุทยาน 06.00 – 18.00 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ 086-092-6527

ค่าบริการในการเข้าชม

  1. ค่าบริการประเภทบุคคล

นักท่องเที่ยวชาวไทย

  • เด็ก 20 บาท (บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี)
  • ผู้ใหญ่ 40 บาท (บุคคลที่มีอายุ 14 – 60 ปี)

ผู้สูงอายุและผู้พิการ ไม่เสียค่าบริการเข้าอุทยานฯ

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

  • เด็ก 100 บาท 
  • ผู้ใหญ่ 200 บาท (รวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ)

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (ด่านเนินหอมและปากช่อง)

  • เด็ก 200 บาท 
  • ผู้ใหญ่ 400 บาท (รวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ)
  1. ค่าบริการประเภทยานพาหนะ
  • รถจักรยานยนต์ คันละ 20 บาท 
  • รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาท
  • รถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาท
  • รถยนต์ มากกว่า 6 ล้อ แต่ไม่เกิน 10 ล้อ คันละ 200 บาท

หมายเหตุ*

บัตรที่ซื้อ 1 ใบสามารถใช้แสดงการเข้า-ออกอุทยานแห่งชาติฯ ภายในวันเดียวกันเท่านั้น

สำหรับผู้พิการต้องเห็นได้ด้วยสายตาว่ามีสภาพพิการ โดยให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมบัตรประจำตัวคนพิการ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันตน

4. ปั่นจักรยานที่บางกระเจ้า แวะกินข้าวที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จ. สมุทรปราการ

4. ปั่นจักรยานที่บางกระเจ้า แวะกินข้าวที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จ. สมุทรปราการ

บางกระเจ้าเป็นเกาะเทียมที่เกิดจากคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับการขนานนามว่าเป็นปอดสีเขียวของกรุงเทพฯ เพราะมีต้นไม้ และบรรยากาศที่ร่มรื่น แถมยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯที่ฮอตฮิตอีกด้วย แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานที่บางกระเจ้าด้วย เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุก และได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว เส้นทางในการปั่นจักรยานนั้นมีความสวยงาม เพราะได้ชมวิวบรรยากาศรอบๆ ได้ และยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น ทำมัดย้อม ปลูกต้นไม้ แช่เท้าจากสมุนไพร 7 ชนิด และล่องเรือสัมผัสชีวิตดั่งเดิมของชาวบ้านบางกระเจ้า เป็นต้น 

หลังจากปั่นจักรยานเสร็จ ที่ใช้พลังงานไปมากมาย หลายๆ คนก็คงจะรู้สึกหิวกันแน่ๆ ซึ่งบริเวณนี้มีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่ภายในมีของขายมากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า ต้นไม้ และของกิน รวมทั้งร้านอาหารที่น่าเอร็ดอร่อยอีกด้วย ที่สำคัญการเดินทางก็ง่าย และสะดวกสบาย หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือขึ้นบีทีเอสไปลงที่สถานีบางนา จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปที่ท่าเรือ และต่อเรือข้ามฟากไปยังบางกระเจ้า

บางกระเจ้าตั้งอยู่ที่ อำเภอบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรสาคร 

เวลาที่เปิดให้เข้าชม ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00-16.00 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ 02-461-3254

5. ตลาดบ้านใหม่ จ. ฉะเชิงเทรา

5. ตลาดบ้านใหม่ จ. ฉะเชิงเทรา

ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี ตั้งอยู่ในเมืองแปดริ้ว ซึ่งมีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่เก่าแก่มีอายุมากว่าร้อยปี และถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เพราะบ้านเรือนสองฝั่งที่สร้างด้วยไม้เก่ายังคงกลิ่นอายความวินเทจในยุคสมัยก่อนไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งนี่อาจจะเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้อย่างคับคั่ง นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมบ้านไม้สองฝั่งแล้ว ที่ตลาดบ้านใหม่ยังมีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ทั้งอาหารไทย จีน ที่สำคัญยังมีขนมโบราณที่หากินยาก พร้อมด้วยร้านขายของที่ระลึกที่มีให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งทุกอย่างมีราคาไม่แพง แถมยังอร่อยอีกด้วย 

นอกจาก อีกหนึ่งกิจจกรมที่น่าสนใจในการมาเที่ยวตลาดบ้านใหม่คือการล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน มีมุมสวยงามต่างๆ ไว้ให้ถ่ายรูป หากใครสนใจที่เที่ยวใกล้กรุงเทพก็ สามารถเลือกตลาดบ้านใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของท่านได้ เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมงจากกรุงเทพ

ตลาดบ้านใหม่ตั้งอยู่ที่ ถนนศุภกิจ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันเวลาที่เปิดให้เข้าชม วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00-17.00 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ ไม่มี

6. นั่งเรือไปเที่ยวเกาะล้าน จ. ชลบุรี

6. นั่งเรือไปเที่ยวเกาะล้าน จ. ชลบุรี

เกาะล้านเป็นเกาะทางฝั่งทะเลอ่าวไทย อยู่ในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยาออกไปเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้นั่งเรือข้ามฝากไม่นานนัก โดยในช่วงวันหยุดจะพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปยังเกาะล้านเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ โดยการเดินทางจากกรุงเทพ – ท่าเรือแหลมบาลีฮายใช้เวลาประมาณ 2.20 ชั่วโมง จากนั้นนั่งเรือต่อไปยังเกาะล้านอีกประมาณ 45 นาที หรือสปีดโบตประมาณ 20 นาที ที่สำคัญเกาะล้านมีกิจกรรมให้ทำมากมายบนเกาะ เช่น ดำน้ำดูปะการัง เล่นน้ำริมชายหาด และขับเจ็ตสกี เป็นต้น สำหรับการเดินทางบนเกาะนั้น สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์หรือนั่งรถรับจ้างของชาวบ้านที่อยู่บนเกาะได้ 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำบนเกาะล้าน ได้แก่

  1. หาดตาแหวน มีน้ำทะเลใสและหาดทรายที่ขาวสะอาด
  2. หาดสังวาลย์ มีความสงบและเป็นหาดที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติที่ชอบอาบแดด 
  3. หาดทองหลาง สามารถดำน้ำดูปะการังได้ที่หาดนี้ แต่หากไม่ชอบการดำน้ำ ทางหาดมีบริการเรือท้องกระจกให้ชมปะการังได้ด้วย
  4. หาดตายาย มีความสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัว
  5. หาดแสม มีโขดหินและป่าค่อนข้างสมบูรณ์ และยังเป็นที่ตั้งของอาคารปลากระเบนสำหรับควบคุมการผลิตไฟฟ้าอีกด้วย
  6. หาดเทียน เป็นหาดขนาดเล็กที่มีความสวยงาม และบรรยากาศที่สงบ
  7. หาดนวล สภาพแวดล้อมของชายหาดมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปมากนัก
  8. จุดชมวิวเขานม เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะ สามารถมองเห็นทะเลสีครามได้อย่างชัดเจน และเป็นสถานที่สำหรับปั่นจักรยานเสือภูเขา
  9. จุดชมวิวกังหันลม เป็นจุดที่มีกังหันลมที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับเกาะล้านเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะขึ้นไปต้องใช้ความระมัดระวังเพราะมีความลาดชันค่อนข้างมาก

เกาะล้านตั้งอยู่ที่ เลขที่ 222 หมู่ 7 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

วันเวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดบริการทุกวัน

เบอร์โทรติดต่อ 038-434-160

7. อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา จ. ระยอง

7. อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา จ. ระยอง

อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง มีพื้นที่ 52,300 ไร่ ซึ่งครอบคลุม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาชะเมา อำเภอแกลง และอำเภอแก่งหางแมว สภาพอากาศในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ในตอนเช้ามีหมอกลงบางส่วน ทำให้มีอากาศค่อนข้างหนาว และมีลมพัดเย็นตลอดทั้งวัน อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสภาพเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นต้นน้ำลำธารของจังหวัดระยอง ภายในอุทยานนั้นมีพันธุ์ไม้ต่างๆ มากมาย เช่น ไม้ชิงชัน ประดู่ ไม้ตะเคียนยาง กล้วยไม้ป่า ว่านชนิดต่าง ๆ และพันธุ์พืชอีกหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภายในอุทยานให้เลือกทำมากมาย ได้แก่ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก เที่ยวถ้ำ ดูดาว ดูนก และส่องสัตว์ เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอุทยาน 

  1. น้ำตกเขาชะเมา น้ำตกมี 8 ชั้น โดยจะไหลลงสู่ธารน้ำใสที่มีความยาว 3 กิโลเมตร
  2. น้ำตกคลองปลาก้าง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีลำธารที่มีระดับลดหลั่นกันไปมาอย่างงดงาม
  3. ถ้ำเขาวง มีทั้งหมด 17 ถ้ำ ซึ่งถ้ำเขาวงนั้นมีลักษณะเป็นหินงอกหินย้อย เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์จำพวกเลียงผาและสัตว์ป่าสงวน 

อัตราค่าบริการ

ชาวไทย

  • เด็ก 20
  • ผู้ใหญ่ 40

ต่างชาติ

  • เด็ก 100
  • ผู้ใหญ่ 200

เขาชะเมาตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ตู้ ปณ. 11 อ.แกลง จ.ระยอง 21110

วันและเวลาที่เปิดให้บริการ  เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ 0 3899 6202 (VoIP), 091 586 2009

8. เดินชมพระราชวังสนามจันทร์ จ. นครปฐม

8. เดินชมพระราชวังสนามจันทร์ จ. นครปฐม

พระราชวังสนามจันทร์มีเนื้อที่ประมาณ 888 ไร่ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับยามมานมัสการพระปฐมเจดีย์ แต่ในปัจจุบันพระราชวังสนามจันทร์ถูกใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม รวมทั้งเป็นวิทยาเขตหนึ่งของ มหาวิทยาลัยศิลปากร ภายในพระราชวังสนามจันทร์ประกอบด้วย 4 พระตำหนัก ได้แก่

  1. พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ จุดเด่นคือสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับปราสาท
  2. พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ มี 2 ชั้น โดยชั้นล่างนั้นด้านตะวันออกเป็นโถงใหญ่โล่งถึงชั้นบน ส่วนแกนเหนือใต้เป็นห้องโถงทางเข้าด้านหนึ่ง และชั้นบนมี 4 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนของมหาดเล็ก
  3. พระตำหนักทับแก้ว เป็นที่ประทับในฤดูหนาวของรัชกาลที่ 6 และเคยเป็นวิทยาลัยทับแก้วของ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  4. พระตำหนักทับขวัญ ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่าราบหนักรักษาพระองค์

สำหรับพระราชวังสนามจันทร์นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพที่เดินทางไม่ไกล จากกรุงเทพ – พระราชวังสนามจันทร์ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น 

พระราชวังสนามจันทร์ตั้งอยู่ที่ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

วันเวลาที่เปิดให้บริการ 09.00-16.00 นาฬิกา (ปิดขายบัตรเวลา 15.30 นาฬิกา)

เบอร์โทรติดต่อ 034-310-431 และ0-3424-4236

ค่าบริการในการเข้าชม

  • คนไทย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
  • ชาวต่างชาติ 50 บาท

9. เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา จ. สมุทรสงคราม

9. เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา จ. สมุทรสงคราม

ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดริมคลองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยเหตุเพราะตลาดแห่งนี้เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไฮไลต์ที่เป็นเสน่ห์ที่เลื่องลือขึ้นชื่อของตลาดน้ำอัมพวาคือ การที่เหล่าแม่ค้าพ่อค้าพายเรือขายเครื่องดื่ม อาหารในแม่น้ำ ที่สำคัญสองริมฝั่งแม่น้ำก็เป็นที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินซื้อของ อาหาร ขนมไทยพื้นบ้าน ของที่ระลึกได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือชมวิว ชมชีวิตสองฝั่งคลองอัมพวา และสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ล่องเรือไหว้พระที่อัมพวา ล่องเรือชมหิ่งห้อย เป็นต้น ซึ่งการเดินทางจากกรุงเทพ – ตลาดน้ำอัมพวาใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น 

ตลาดน้ำอัมพวาตั้งอยู่ที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

วันเวลาที่เปิดให้เข้าชม วันศุกร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-20.30 นาฬิกา

เบอร์โทรติดต่อ 034-751-351

แช่น้ำร้อนที่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง จ. ราชบุรี 

10. แช่น้ำร้อนที่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง จ. ราชบุรี 

บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี อยู่ท่ามกลางบรรยากาศผืนป่าที่เขียวชอุ่ม มีอุณหภูมิสูงกว่าร่างกายมนุษย์ โดยมีอุณหภูมิประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการแช่เพื่อความผ่อนคลาย เนื่องจากน้ำในลำธารนั้นไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน อีกทั้งยังไม่มีแร่ธาตุที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยธารน้ำร้อนบ่อคลึงนั้นมีกิจกรรมที่ยอดฮิตคือแช่น้ำร้อน ซึ่งบ่อน้ำร้อนมีให้บริการลงแช่อยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ 

  1. สระดิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องการประสบการณ์ของการแช่ตัวในบ่อน้ำร้อน หากแต่เนื่องจากมีผู้คนเดินไปมาจึงทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัวมากนัก
  • ค่าบริการ คนไทย-ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
  • ค่าบริการ ต่างชาติ-ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
  1. สระกระเบื้อง มีขนาดเล็กกว่าสระดิน มีที่ให้นั่งแช่รอบบ่อ สามารถสวมกางเกงและเสื้อลงแช่ในบ่อได้
  • ค่าบริการ คนไทย-ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท
  • ค่าบริการ ต่างชาติ-ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท
  1. ที่แช่เท้า (ฟรี) มีบริการ 2 ที่คือ ที่บ่อปูนและที่ปากท่อน้ำไหลที่ปล่อยลงมาจากสระดินสู่สระใหญ่

ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตั้งอยู่ที่ 27 หมู่7 บ่อคลึง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

วันเวลาที่เปิดบริการ : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.00-17.00 นาฬิกา และ วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 8.00-18.00 นาฬิกา

เบอร์โทรศัพท์ : 089-9182114

หากท่านใดมีเวลาว่างในวันหยุดอันแสนสั้น การได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพก็สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือก นอกเหนือจากการนอนอ่านหนังสือ ดูหนังหรือซีรีส์แล้ว ไปได้เดินทางไปเที่ยวที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน รวมถึงการเรียนที่ยาวนานมาตลอดทั้งเดือนได้ ซึ่งที่เที่ยวที่ใกล้กรุงเทพฯ มีทั้งที่เป็นตลาด อุทยานแห่งชาติ วัด รวมไปถึงบ่อน้ำพุร้อน ท่านที่สนใจหรือกำลังวางแผนวันเดย์ทริปแบบง่ายๆ ก็สามารถตามไปเที่ยวกันได้