fbpx

ประโยชน์ของการพักผ่อน วิธีที่ช่วยลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพที่ดี

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในชีวิตประจำวันทุกคนต่างต้องเจอกับเรื่องที่ยากลำบาก และเกินการคาดเดาด้วยกันทั้งนั้น ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ทั้งร่างกาย และจิตใจเกิดความเครียดสะสมโดยที่คุณไม่รู้ตัว การหาพื้นที่ หรือกิจกรรมเพื่อพักผ่อนเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่ควรทำ แต่ต้องทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายทรุดโทรม เกิดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากภาวะความเครียดได้ ในบทความชิ้นนี้จึงได้รวบรวมประโยชน์ของการพักผ่อนที่หลายคนยังไม่รู้ และแบ่งปันวิธีการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ และเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิตให้มากยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้แล้วว่าการพักผ่อนมีผลดีอย่างไรบ้าง และในบทความนี้จะมีวิธีคลายเครียดอะไรที่นำมาฝาก ไปติดตามกันต่อได้เลย 

7 ประโยชน์ของการพักผ่อนที่ควรรู้

7 ประโยชน์ของการพักผ่อนที่ควรรู้

ไม่ว่าจะวัยไหน หรือใครต่างก็ต้องรักษาความสมดุลของความเครียดให้บาลานซ์อยู่เสมอ เพราะความเครียด หรือรู้สึกกดดันแต่พอดี จะทำให้คุณสามารถผลิตงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างสมเหตุสมผล แต่ทันทีที่เครียดเกินไปก็ส่งผลเสียให้ทั้งสุขภาพกาย และจิตใจโดยตรงเช่นเดียวกัน การพักผ่อน หรือการมีพื้นที่ที่ผ่อนคลายความเครียดจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ และไม่ควรรู้สึกผิดในใจแต่อย่างใด หากคุณรู้ประโยชน์ของการพักผ่อน และฝึกตัวเองให้พักผ่อนเป็น ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างสมดุลมากยิ่งขึ้น 

1. เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

แน่นอนว่าการได้นอนพักผ่อนเป็นดั่งยาวิเศษที่จะช่วยลดความเครียดที่สะสมจากการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่คุณแทบไม่รู้ตัว หากคุณมัวแต่ใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง และทำงานอย่างแข็งขัน โดยที่ไม่หาวิธีพักผ่อน นี่จะเป็นดั่งการตีระฆังเรียกโรคร้ายให้เข้ามาหาตัวคุณกันเลยก็ว่าได้ 

ทั้งนี้ จากการวิจัยพบว่าการนอนเป็นหนึ่งในวิธีพักผ่อนที่ดีที่สุด นอกจากจะเป็นการชาร์จพลังงานด้านอารมณ์ให้กับคุณได้แล้ว ยังเป็นการให้ร่างกายได้ซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้อีกด้วย สังเกตได้ว่าผู้ที่พักผ่อนเพียงพอ หรือนอนอย่างน้อย 7-8 ชม. ต่อวัน จะไม่ค่อยมีอาการป่วยเมื่อเทียบกับผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ 

2. ลดความเครียด

2. ลดความเครียด

โดยปกติแล้วร่างกายจะทำการหลั่งสาร Cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลักของร่างกายออกมา เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และมีพลังงานเป็นพิเศษในช่วงเช้า ให้ร่างกายพร้อมต่อสู้ไปกับวันใหม่ และจะค่อยๆ ลดปริมาณในช่วงเย็นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ดีหากร่างกายหลั่งสารชนิดนี้มากเกินไปก็ทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายอย่าง การทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม และแก่เร็วกว่าเดิม อีกทั้งยังส่งผลกับสมองที่จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะมีความเครียดสะสม และอาจพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วยในที่สุด 

การพักผ่อนคือกุญแจที่จะเป็นการสร้างความสมดุลให้สารดังกล่าวทำงานได้ตามปกติ หลั่งออกมาในช่วงเช้า และลดปริมาณในช่วงเย็น ทำให้ร่างกายสดชื่น และมีเรี่ยวแรงพร้อมทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างเต็มที่ ก่อนที่จะรู้สึกผ่อนคลาย และพร้อมพักผ่อนในช่วงเย็น หากใครที่ยังไม่มีวิธีคลายเครียด การได้มีกิจกรรมบางอย่างจะทำให้การมองโลก และมุมมองในการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปแบบที่คุณคาดไม่ถึงกันเลย 

3. กระตุ้นสมองให้มีความคิดสร้างสรรค์

หากคุณไม่สามารถคิดงานสร้างสรรค์ได้ ถ้าอยู่ในภาวะที่กดดัน หรือเครียดเกินไป เพราะมีการวิจัยของนักประสาทวิทยาที่พบว่า เมื่อคุณเครียด หรืออยู่ในสภาวะที่กดดันสมองจะทำงานหนักมากเกินไป และทำให้ไม่สามารถใช้งานสมองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตรงกันข้ามหากคุณหัวปลอดโปร่ง จะยิ่งทำให้สามารถเค้นความสามารถของสมอง และทำให้คุณทำงานสร้างสรรค์ได้ดียิ่งกว่าที่เคยเป็นมา 

สมองสามารถที่จะเชื่อมโยงเป็นโครงข่าย และทำให้เกิดไอเดียแปลกใหม่ได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงที่รู้สึกผ่อนคลายได้ดี เหมือนเหล่านักเขียนที่มักจะหาพื้นที่ หรือกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายตัวเอง ให้สมองได้พัฒนาไอเดียต่อยอดโดยใช้ความทรงจำ และความคิดสร้างสรรค์เป็นอุปกรณ์หลัก จนได้มาซึ่งพล็อตนิยายที่พวกเขาต้องการ 

4. ส่งเสริมให้นอนหลับให้ดีขึ้น

4. ส่งเสริมให้นอนหลับให้ดีขึ้น

เชื่อว่าเมื่อหลายคนคิดถึงการพักผ่อน การนอนจะเข้ามาเป็นไอเดียแรกๆ ของใครหลายคน เพราะการนอนเป็นวิธีพักผ่อนที่ง่าย และดีที่สุด โดยคุณควรนอน 7 หรือมากกว่านั้นเพื่อให้ร่างกายได้มีโอกาสซ่อมแซมส่วนที่มีปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกาย การนอนส่งผลดีกับร่างกายในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเสริมภูมิคุ้มกัน, ควบคุมน้ำหนัก, ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ จากความเครียด, เคลียร์สมองให้ปลอดโปร่งจากความเครียดเรื่องเรียน หรือเรื่องงาน และทำให้สมองพร้อมกับการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น 

5. ความดันโลหิตต่ำลง

เมื่อคุณมีความเครียดสะสมมากเกินไป จะส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก เพราะสูบฉีดเลือดถี่เกินความจำเป็น ผนังหลอดเลือดหดตัวเกร็ง ใครที่พื้นฐานเป็นโรคหัวใจ หรือหลอดเลือดสมอง มีความเสี่ยงสูงมากที่จะอาการกำเริบ และมีอันตรายถึงชีวิต การได้พักผ่อน เพื่อลดความเครียดมีบทบาทสำคัญอย่างมากเพื่อรักษา และสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย เมื่อร่างกายได้อยู่ในสถานะผ่อนคลาย จะทำให้การหายใจของคุณช้าลง ระบบสูบฉีดเลือดทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป แน่นอนว่าอัตราการเต้นของหัวใจเองก็ทำงานช้าลงไปด้วย การพักผ่อนที่ดีจะทำให้ช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำลง และยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย 

6. ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

ใครที่เป็นโรคกระเพราะ หรือเคยมีประสบการณ์ลำไส้บีบตัว จะรู้ดีว่านั้นเป็นประสบการณ์ยอดแย่ที่อธิบายให้คนอื่นฟังถึงความเจ็บปวดได้ยากมากเหตุการณ์หนึ่ง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าการได้พักผ่อน เพื่อลดหย่อนความเครียดที่สะสมนั้นก็ส่งผลโดยตรงให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ที่สำคัญนักวิจัยได้พบว่าการพักผ่อนคือหนึ่งในตัวช่วยลดอาการเจ็บปวดจากลำไส้บิด และจัดการกับความผิดปกติของระบบย่อยอาหารได้อย่างตรงจุด

7. กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

เมื่อร่างกายถูกใช้งานอย่างหนัก และเกิดความเครียด เป็นปกติที่กล้ามเนื้อจะหดตัว หรือเกร็งตัวที่มักทำให้คุณรู้สึกปวดเมื่อย และไม่สบายตัว การได้พักผ่อนจึงเป็นยาคลายกล้ามเนื้อที่ดีที่สุด นอกจากจะทำให้สมองของคุณรู้สึกสงบ และได้สัมผัสกับพื้นที่ที่ว่างปล่อย ทบทวนสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อค่อยๆ คลายตัว ไม่รู้สึกปวดเมื่อยเท่ากับช่วงแรกที่คุณรู้สึกตึงเครียด หากตอนนี้คุณรู้สึกปวดเมื่อยช่วงคอ บ่า หรือไหล่ ลองลุกจากเก้าอี้ทำงาน และไปเดินเล่นสักที่ ปล่อยหัวให้สบาย และให้ร่างกายได้เปลี่ยนบริบทกันบ้าง ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย 

แชร์กิจกรรมและการพักผ่อนที่ดีที่สุดมีอะไรบ้าง

แชร์กิจกรรมและการพักผ่อนที่ดีที่สุดมีอะไรบ้าง

การพักผ่อนดูเป็นเรื่องที่ง่าย และทำได้ไม่ยาก แต่กลับไม่ใช่ทุกคนที่ทำกันได้ด้วยหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเวลาว่างที่มีเหลืออยู่น้อยนิดในแต่ละวัน หรือมองว่าการพักผ่อนนั้นไม่มีประโยชน์ แต่จากเนื้อหาที่นำเสนอไปก่อนหน้า คาดว่าผู้อ่านจะได้เห็นประโยชน์ของการพักผ่อนขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยวิธีการพักผ่อนที่ดีต้องทำให้คุณรู้สึกสบายทั้งกายและใจ สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียพักผ่อน ในเนื้อหาส่วนนี้ได้รวบรวมวิธีพักผ่อน ที่ทำได้ง่าย และเห็นผลจริง ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าจะมีกิจกรรมอะไรเด็ดๆ บ้าง ไปติดตามกันต่อได้เลย ดังนี้ 

  • ฝึกหายใจ: คุณสามารถฝึกได้ผ่านหลายกิจกรรมทั้งการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมเบาๆ ในบ้าน เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนได้มากขึ้น ด้วยวิธีนี้จะทำให้สมองปลอดโปร่ง และหัวใจเต้นช้าลง และทำให้ความดันเลือดคงที่อีกด้วย 
  • ทำสมาธิ: หลายคนอาจจะคิดว่าการทำสมาธิจำเป็นต้องนั่งหลับตาเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วไม่จำเป็นเลย เพราะคุณสามารถที่จะทำสมาธิได้ทุกท่า ทั้งนั่ง และนอน เพียงแต่เป็นการเลือกใช้บางช่วงเวลาอยู่กับตัวเอง และทบทวนสิ่งที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน บางคนก็สามารถทำสมาธิได้จากกิจวัตรประจำวันง่ายๆ อย่างการทำความสะอาดบ้าน 
  • เล่นโยคะ: เป็นวิธีการพักผ่อนที่มีความนิยมสูงสุดกิจกรรมหนึ่งเลยก็ว่าได้ การเล่นโยคะนี้ไม่ได้เป็นการฝึกหายใจ และทำสมาธิกับท่วงท่าที่เป็นอยู่เท่านั้น แต่นี่ยังเป็นกิจกรรมที่จะทำให้คุณได้ฝึกยืดกล้ามเนื้อ และสร้างความสมดุลภายในร่างกายให้ดีไปในเวลาเดียวกัน
  • รำไทเก็กและชี่กง: ทั้ง 2 กิจกรรมนี้มีการเคลื่อนไหวร่างกายที่แตกต่างกันก็จริง แต่มีจุดร่วมที่เป็นกิจกรรมเน้นการเคลื่อนไหวที่ช้า และเน้นการได้อยู่กับตัวเอง การได้ออกกำลังกายช้าๆ นี้เป็นทั้งการนวด และผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่หดตัว พร้อมกับเสริมประสิทธิภาพในการไหลเวียนโลหิตในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
  • นวดคลายเส้น: เพราะเมื่อคุณกดดัน หรือรู้สึกเครียดจะส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว และตึงขึ้นทีละมัด การได้หาโอกาสไปนวดเพื่อคลายเส้น ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ทั้งร่างกายได้รับการดูแลอย่างตรงจุด และได้เบี่ยงเบนความคิดออกจากเรื่องยุ่งยากที่ทำให้คุณเครียดได้อีก
  • สะกดจิตบำบัด: จำเป็นที่จะต้องเข้าบำบัดกับแพทย์ที่มีใบรับรอง นี่จะเป็นวิธีที่ส่งผลกับสมองโดยตรง และปรับให้สมองของคุณมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เชิงบวก เพื่อหลีกเลี่ยง และลืมเหตุการณ์แย่ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ หรือเครียดแทน 
  • วาดรูป สร้างงานสร้างสรรค์: นี่เป็นเทคนิคที่เหล่านักจิตวิทยาแนะนำ เพราะการได้ทำงานสร้างสรรค์ หรือการวาดรูปจะทำให้คุณได้เข้าใจตัวเอง และความเครียดที่ค้างคาอยู่ใจ หลายครั้งที่ผู้คนรู้สึกเครียด และรู้สึกลำบากใจ แต่ยากที่จะอธิบาย หรือไม่สามารถรู้ได้ว่าปัญหาเกิดจากเหตุการณ์ นี่จะทำให้คุณได้เข้าใจ และพบต้นตอของความเครียดได้เป็นอย่างดี 

ผลกระทบเมื่อขาดการพักผ่อนที่คุณคาดไม่ถึง

ผลกระทบเมื่อขาดการพักผ่อนที่คุณคาดไม่ถึง

เนื้อหาสุดท้ายนี้อยากจะให้ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะความเครียดสะสม และขาดการพักผ่อนว่าส่งผลร้ายแรงต่อทั้งร่างกาย และจิตใจ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ทุกคนพยายามเร่งสร้างผลงาน และอยากประสบความสำเร็จจนมีความเครียดสะสมอยู่โดยที่ไม่รู้ตัว นี่จะทำให้คุณได้รู้ถึงความร้ายกาจของความเครียดที่คุณไม่เคยรู้ และคาดไม่ถึง 

  • ผลกระทบทางกาย: ตั้งแต่อาการพื้นฐานอย่างการปวดหัว ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่าง คอ บ่า ไหล่ ที่จะพบเห็นกันได้อยู่บ่อยครั้ง หากมีความเครียดที่มากขึ้นก็จะเริ่มส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ, ความดันโลหิตทำงานผิดปกติ, โรคกระเพราะ หรืออาการท้องผูก ยิ่งปล่อยไว้นานภาวะความเครียดจะเริ่มส่งผลกับชีวิตประจำวันมากขึ้นทั้งการนอนที่เริ่มจะนอนยากขึ้น, รู้สึกหอบหืด และสมรรถภาพทางเพศเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด 
  • ผลกระทบทางจิตใจ: ในระยะแรกๆ นั้นจะส่งผลให้ผู้ที่มีความเครียดพื้นฐานมีความวิตกกังวลกับเรื่องทั่วไป จนอาการจะเริ่มหนักขึ้น และอาจนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้า เริ่มรู้สึกกลัวอย่างไร้เหตุผล เพราะฮอร์โมนที่ทำงานผิดปกติ อารมณ์แปรปรวน ไม่แน่นอน ซึ่งอาการทางจิตเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันกับผู้คนรอบตัวคุณมากขึ้น ทั้งกับเพื่อนร่วมงาน และครอบครัว ยิ่งปล่อยไว้จะยิ่งเพิ่มโอกาสทำให้มีโอกาสเป็นโรคประสาทแทรกซ้อน

สรุป

ทุกคนล้วนต้องทำงาน และเรียนหนังสือ สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็น และความเครียดที่พอประมาณจะเป็นปัจจัยที่ดีที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณขาดการพักผ่อน และมีภาวะความเครียดสะสมมากเกินไป ความเครียดจากยาจะกลายเป็นยาพิษที่ทำร้ายตัวคุณทั้งทางกาย และจิตใจทันที การพักผ่อนจึงเป็นวิธีรักษาสมดุลให้คุณได้ลดความตึงเครียดที่เจอจากการใช้ชีวิต และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกาย และสมองที่เป็นประโยชน์ของการพักผ่อนตามที่ได้กล่าวไป การเต็มที่กับทุกช่วงเวลาของชีวิตเป็นเรื่องดี และควรทำ แต่อย่าลืมที่จะหาเวลาสนุกไปกับชีวิตด้วยในเวลาเดียวกัน