fbpx

แชร์ 7 เทคนิคถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่เขาใหญ่ให้สวยปังแบบมือโปร

การถ่ายภาพเปรียบเสมือนกับการเขียนหนังสือ หรือการจดบันทึกเรื่องราวความทรงจำเก็บไว้ โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ หากได้กลับมาดูอีกครั้ง จะเป็นการเพิ่มความสุขสดชื่นให้กับชีวิตเลยทีเดียว ในปัจจุบัน การถ่ายภาพไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูป หรือมือถือสมาร์ทโฟนนั้น มีราคาที่ไม่แพง ทำให้เราสามารถเก็บบันทึกภาพได้ตลอดเวลา

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือโปรหรือมือใหม่ หากได้ถ่ายภาพบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยว ถ่ายวิวทิวทัศน์ ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกด้วยตัวเอง จะช่วยให้การท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบขึ้นมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากได้ไปที่เที่ยวยอดฮิตอย่าง เขาใหญ่ ที่มีจุดถ่ายรูปเช็กอินสวยๆ ตามธรรมชาติมากมาย แต่การถ่ายภาพให้ออกมาสวย ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว ต้องมีการเตรียมพร้อมที่ดี และมีเทคนิคพอสมควร ในบทความนี้ ได้รวบรวมเทคนิคถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกให้สวยปังแบบมือโปร พร้อมจุดชมพระอาทิตย์ยอดนิยมที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เทคนิคการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกแบบง่ายๆ

เทคนิคการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกแบบง่ายๆ

เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า บางครั้งเวลาไปเที่ยว เช่น ไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเขาใหญ่ เราก็ถ่ายรูปในมุมมหาชนเช่นเดียวกับคนอื่น หรือมือถือก็รุ่นเดียวกัน แต่ทำไมภาพของคนอื่นสวยปัง แต่ของเราไม่ออกมาหน้ามืด ก็ออกมาซีดๆ เบลอๆ หรือถ่ายยังไงก็ไม่สวยสักที วันนี้จะมาเฉลยกันว่า อยากถ่ายภาพออกมาให้สวยปังแบบมือโปร ต้องเตรียมตัวอย่างไร

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

ไม่ว่าจะถ่ายพระอาทิตย์ตก หรือถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยงาม เพราะการถ่ายภาพพระอาทิตย์นั้น จะแตกต่างจากการถ่ายภาพวิวทั่วไปด้วยมือถือหรือกล้อง นอกจากนี้ จำเป็นต้องรู้เทคนิคต่างๆ ในการใช้อุปกรณ์ด้วย

●       กล้อง หรือโทรศัพท์

ปัจจุบันกล้องถ่ายรูปมีให้เลือกใช้กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูปมือโปร แบบ DSLR กล้อง APS-C หรือกล้อง Mirrorless ที่เป็นกล้องขนาดเล็กพกพาง่าย แต่หากใครใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ก็มีให้เลือกหลายรุ่นหลายสเปค ความละเอียดของกล้องจะมีให้เลือกแตกต่างกันไปตามราคา

●       เลนส์กล้อง หรือเลนส์มือถือ

หากเป็นการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูป จะมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ภาพออกมาสวยแตกต่างกัน นั่นก็คือเลนส์ถ่ายภาพระยะต่างๆ มีทั้งเลนส์ถ่ายภาพระยะไกล หรือเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) เลนส์ทั่วไป (Normal Lens) เลนส์ซูม (Zoom Lens) เลนส์มุมกว้าง (Wide angle Lens) ฯลฯ ในส่วนของกล้องมือถือ ก็สามารถเลือกซื้อเลนส์เสริมและต่อเข้ากับตัวเครื่องสมาร์ทโฟนได้เช่นเดียวกัน

●       ขาตั้งกล้อง หรือขาตั้งโทรศัพท์

การถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ไม่ว่าจะเป็น ด้วยมือถือหรือกล้องถ่ายรูป จะต้องใช้ความนิ่งพอสมควร ดังนั้น การมีขาตั้งกล้อง หรือขาตั้งโทรศัพท์ จะช่วยให้ภาพถ่ายของออกมาสวยงามกว่าเดิมได้ เพราะภาพจะไม่สั่นไม่เบลอ แต่การเลือกใช้ขาตั้งกล้อง ก็ควรเลือกที่มีน้ำหนักกำลังดี และมีขนาดพอเหมาะกับกล้อง

●       สายลั่นชัตเตอร์ หรือรีโมทถ่ายภาพ

สายลั่นชัตเตอร์ หรือรีโมทถ่ายภาพถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ไม่ควรมองข้าม โดยมักใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง  เพื่อให้ไม่ต้องกดชัตเตอร์ด้วยมือ และลดการสั่นไหวของตัวกล้องขณะถ่ายภาพ เพราะการกดถ่ายภาพด้วยมือ มีโอกาสที่เกิดแรงสะเทือนและทำให้ภาพสั่นไหวได้ง่าย โดยเฉพาะการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ที่ต้องตั้งสปีดความเร็วชัตเตอร์ต่ำ

2. ศึกษาการตั้งค่ากล้องก่อนถ่ายภาพพระอาทิตย์

2. ศึกษาการตั้งค่ากล้องก่อนถ่ายภาพพระอาทิตย์

ก่อนจะลงมือถ่ายภาพทุกครั้ง การเซตค่าต่างๆ ของอุปกรณ์ที่ใช้งาน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ โดยเฉพาะกับการถ่ายรูปธรรมชาติ ที่มีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอย่างการถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ที่มีสภาพแสงซับซ้อนกว่าปกติ จึงควรศึกษาการตั้งค่ากล้องก่อนเริ่มถ่ายภาพ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

●      ตั้งค่ากล้อง

การตั้งค่ากล้องในเบื้องต้นสำหรับถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น ความเร็วชัตเตอร์ควรจะอยู่ที่ 1/15-1/50 วินาที ความไวแสงระหว่าง ISO 400-800 และตั้งรูรับแสงที่ f 11-16 โดยใช้โหมด M

การถ่ายพระอาทิตย์ตก จะสวนทางกับพระอาทิตย์ขึ้น เพราะแสงรอบข้างจะมืดลงเรื่อยๆ ดังนั้น การตั้งค่ากล้องในเบื้องต้นสำหรับถ่ายพระอาทิตย์ตก ความเร็วชัตเตอร์ควรจะอยู่ที่ 1/30 วินาที ความไวแสงควรตั้งที่ ISO 100 และตั้งรูรับแสงที่ f8 โดยใช้โหมด M เช่นกัน

●      ตั้งค่ากล้องมือถือ

กล้องในมือถือหลายๆ รุ่น จะมีโหมด Pro ให้เลือกใช้งาน ซึ่งก็จะเหมือนโหมด M ของกล้องถ่ายรูปนั่นเอง สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้ง ISO, Focus และ Speed Shutter เช่นเดียวกัน อีกหนึ่งข้อดีของการถ่ายภาพพระอาทิตย์ด้วยมือถือ คือ มีโหมด HDR หรือ High Dynamic Range มาช่วยให้การถ่ายภาพย้อนแสงสวยงาม สว่าง และคมชัดมากขึ้น

A photographer photographs the dawn of the sun on the volcano Batur. Bali Indonesia

3. เลือกสถานที่ถ่ายภาพพระอาทิตย์ให้ดี

การเลือกสถานที่ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ภาพออกมาสวยงาม เพราะการถ่ายภาพธรรมชาติต้องรู้ทั้งจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม เช่น หากเราไปถ่ายภาพที่ผาเดียวดาย จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดฮิตที่เขาใหญ่ พระอาทิตย์จะขึ้นเหนือสันเขา จึงจำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า และหาข้อมูลเบื้องต้นว่าดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาไหน

4. วางแผนมุมถ่ายรูป

อย่าลืมว่าการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ ทันทีที่แสงแรกโผล่พ้นขอบฟ้า เราจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะบันทึกภาพ การเตรียมตัววางแผนหาจุดถ่ายภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากเป็นไปได้ก็ควรไปถึงสถานที่ก่อนเวลามากๆ เพื่อจะได้มีเวลาเดินสำรวจ หามุมสวยๆ หาจุดตั้งกล้องดีๆ และมีเวลาพิจารณาว่าเราต้องการภาพถ่ายจากมุมไหน และถ่ายจากจุดไหนถึงจะออกมาสวยงาม

5. จัดโครงสร้างภาพให้ดี

การจัดองค์ประกอบภาพ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามได้ เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพเบื้องต้นที่ได้รับความนิยม คือ การใช้กฎสามส่วน สามารถทำได้โดยการเปิด Grid ในมือถือหรือหน้าจอของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งหากมองจากจอมอนิเตอร์ จะให้เส้นเป็นตาราง 9 ช่อง จุดตัดของตารางจะช่วยให้เราจัดองค์ประกอบภาพได้ เช่น ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขา หากต้องการให้ท้องฟ้าเด่น ก็ให้จอเห็นท้องฟ้า 2 ส่วน ยอดเขา 1 ส่วน แต่หากเน้นยอดเขา ก็ให้เลือกยอดเขา 2 ส่วน ท้องฟ้า 1 ส่วน หรืออยากให้ภาพสมดุลก็เลือกโฟกัสแบบเท่าๆ กัน

6. เก็บรายละเอียดด้วยโหมดถ่ายภาพ

สิ่งที่ต้องเตือนตัวเองเสมอเมื่อจะเตรียมตัวออกไปถ่ายภาพ คือ ถ่ายอะไร ถ่ายแบบไหน หรือถ่ายเวลาไหน เมื่อรู้ชัดแล้ว ก็ให้ตั้งค่าอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายรูป หรือมือถือไว้ล่วงหน้า นอกจากการถ่ายโหมดปกติแล้ว ยังมีโหมดถ่ายภาพต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น

●      โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง

เป็นโหมดที่กดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว จะได้ภาพออกมาหลายภาพต่อเนื่องกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของอุปกรณ์ด้วย เช่น กล้องบางรุ่นอาจจะถ่ายได้ 20 ภาพต่อเฟรมต่อวินาที (FPS) แต่รุ่นที่สเปคสูงๆ อาจจะถ่ายได้จำนวนภาพมากกว่า แต่ข้อดีของโหมดถ่ายต่อเนื่อง คือ สามารถเลือกเก็บชอตที่สวยงามประทับใจที่สุดได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถ่ายพลาด

●      โหมด Panorama

กล้องหรือมือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะมีโหมดพาโนรามา หรือการถ่ายภาพมุมกว้าง มาให้ใช้งานอยู่แล้ว การถ่ายภาพด้วยโหมดพาโนรามา จะช่วยเพิ่มมุมมองใหม่ๆ เพิ่มมิติความลึกให้กับภาพ ช่วยให้ภาพของเรามีเสน่ห์ และความสวยงามมากยิ่งขึ้น

7. ปรับตกแต่งภาพเพิ่มเติม

สุดท้ายใครที่คิดว่ายังถ่ายภาพออกมาไม่สวย หรือยังไม่ถูกใจ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมช่วยแต่งรูปออกมามากมาย จะปรับแต่งให้สว่าง ให้คมชัดมากขึ้นก็ทำได้ดังใจ เช่น Snapseed, Photoshop, Lightroom, Canva และ PicsArt ซึ่งนอกจากแต่งรูปแล้ว ยังสามารถรีทัชภาพ หรือใส่ฟิลเตอร์ปรับโทนสีได้อีกด้วย

แนะนำ 5 จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเขาใหญ่ที่ห้ามพลาด

หากต้องการเลือกจุดถ่ายภาพที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีสถานที่เที่ยวให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร คาเฟ่ และรีสอร์ทชื่อดัง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์สวยๆ ที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง ใครเป็นสายถ่ายรูปเช็กอินมาดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง 

ผาเดียวดาย

ผาเดียวดาย

ผาเดียวดาย เป็นจุดถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมีเสน่ห์ และเป็นที่นิยมมากๆ ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ลำตะคองไปประมาณ 12 กิโลเมตร ผาเดียวดายอยู่ใกล้กับผาตรอมใจ ทั้งสองผาถือเป็นไฮไลต์สำคัญ สำหรับคนที่มาแคมป์ปิ้งบนเขาใหญ่เลยทีเดียว เพราะมีทั้งวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่มีทั้งสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด ถือว่าเป็นเส้นทางที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากๆ อีกด้วย

  • เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา06.00-17.00 น.
  • ติดต่อสอบถาม: 037-312282
หอดูสัตว์หนองผักชี

หอดูสัตว์หนองผักชี

จุดชมวิวหอดูสัตว์หนองผักชี อีกหนึ่งจุดส่องสัตว์เขาใหญ่ที่สามารถมาได้ตอนกลางวัน และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ได้รับความนิยม นอกจากวิวสวยๆ แล้วที่หนองผักชี ยังเป็นเส้นทางออกหากินของช้าง กระทิง สัตว์น้อยใหญ่ รวมทั้งยังเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่กลุ่มนักดูนกชื่นชอบ เพราะมีนกหลากหลายสายพันธุ์ ตามความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ทุ่งหญ้าแบบสะวันนา และมีแอ่งน้ำ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นภัตตาคารของสัตว์ป่าสุด Unseen อีกหนึ่งไฮไลต์ คือ หอดูสัตว์มุมสูง ที่สามารถมองวิวได้ไกลสุดตา

  • เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
  • ติดต่อสอบถาม: 086-0926529
อ่างเก็บน้ำสายศร

อ่างเก็บน้ำสายศร

อ่างเก็บน้ำสายศร เป็นแหล่งน้ำสำคัญของเขาใหญ่ ที่บรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้มาอาศัย เมื่อก่อนเรียกกันว่าอ่างเก็บน้ำมอสิงโต ที่นี่นอกจากจะเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของสายน้ำ ทุ่งหญ้า และป่าเขา ที่สามารถนั่งพักผ่อนเพื่อรับลมชิลๆ เพราะมีอากาศเย็นสบายแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเขาใหญ่ ที่สวยงามมากๆ อีกด้วย นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลต์ของอ่างเก็บน้ำสายศร คือ เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่เราจะได้สัมผัสกับป่าดิบแล้ง และป่ารุ่นสองที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด

  • เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
  • ติดต่อสอบถาม: 037-312282

กังหันลมเขื่อนลำตะคอง

อ่างเก็บน้ำลอยฟ้า ทุ่งกังหันลมเขื่อนลำตะคอง และภูเขาเควสตา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนธรณีวิทยาจากยูเนสโก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเขาใหญ่ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน หากเราขึ้นมาเหนือเขื่อนลำตะคอง จะพบกับจุดชมวิวแบบพาโนรามา ที่มองวิวได้แบบรอบทิศทาง และเป็นจุดถ่ายพระอาทิตย์ตกลับโค้งขอบฟ้าที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด นอกจากนี้ จุดชมวิวรอบสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ สามารถนั่งรถบริการไปชมจุดชมวิวเขายายเที่ยงได้อีกด้วย

  • เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา09.00-17.00 น.
  • ติดต่อสอบถาม: 044-984007
วัดป่าภูหายหลง

วัดป่าภูหายหลง

วัดป่าภูหายหลง ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ที่รายล้อมไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ได้ชื่อว่าเป็นมหัศจรรย์วัดป่ากลางสรวงสวรรค์ ที่เป็นทั้งจุดชมวิวภูเขาแบบ 360 องศา และเป็นจุดถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง  อุโบสถของวัดป่าภูหายหลง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ละเอียดอ่อน บรรยากาศของวัดในช่วงเช้าและช่วงเย็น ที่มีแสงอาทิตย์ส่องกระทบ ทำให้เป็นวัดที่มีความสวยงามสมดังคำนิยาม โดยเฉพาะหากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ใครได้มาเที่ยวก็จะได้พบกับทะเลหมอกอันน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

  • เวลาเปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 05.30-17.00 น.
  • ติดต่อสอบถาม: 081-2917676

การถ่ายภาพกับการเดินทางท่องเที่ยว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันจนแยกไม่ออก สำหรับนักท่องเที่ยวการได้มาบันทึกภาพ หรือการถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกอย่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะช่วยเติมเต็มความสุขได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหากอยากจะถ่ายภาพธรรมชาติให้ออกมาสวยปังอย่างมือโปรนั้น นอกจากมีอุปกรณ์ที่ครบถ้วนแล้ว ยังต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ ให้มีความชำนาญ เพราะเมื่อภาพถ่ายออกมาสวยงาม คุณก็จะมีความสุขไปกับทริปท่องเที่ยวนั้นอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถมาได้ที่แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ มีบริการบ้านพัก 5 ห้องนอน ที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับธรรมชาติ แต่ยังคงความเรียบหรู พร้อมด้วยบรรยากาศร่มรื่นของพื้นหญ้าสีเขียวและพันธุ์ไม้นานาชนิด