fbpx

พาส่อง! 9 เมนูอาหารไทย ระดับท็อปโลก ทำง่าย คนไทยกินได้ ฝรั่งกินดี

ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินที่โดดเด่น มีรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ที่เด่นชัด จนทำให้อาหารไทยโด่งดังมากๆ ในระดับโลก ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่ารายการอาหารไทยยอดนิยมมีอะไรบ้าง พร้อมมีสูตรการทำอย่างไรถึงจะได้รสชาติอร่อยแบบไทยแท้ๆ คนไทยกินแล้วถูกใจ ฝรั่งก็ชอบ  

ทำไมเมนูอาหารไทยจึงได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ

ทำไมเมนูอาหารไทยจึงได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ

เมนูอาหารไทยหลายๆ เมนูนั้นได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของนักชิมมากมายในระดับนานาชาติ นั่นก็เป็นเพราะว่าอาหารไทยใช้เครื่องเทศ และวัตถุดิบที่มีความเฉพาะตัว ถูกนำมาทำเป็นเมนูที่หลากหลายน่ารับประทาน  และมีรสชาติที่ถูกปาก โดยจะมีรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ซึ่งเป็นรสชาติที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน 

รวม 9 เมนูอาหารไทยที่ไม่ควรพลาด

รายการอาหารไทยนั้นมีอยู่อย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละรายการล้วนแล้วมีความน่ารับประทานไม่แพ้กันเลย แต่ในที่นี้เราจะพามาดูกันว่าเมนูอาหารไทยเมนูใดบ้างที่ได้รับความนิยม ซึ่งการันตีได้เลยว่าเป็นอาหารที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแน่นอน

พะแนง – Phanaeng

1. พะแนง – Phanaeng

แกงพะแนง เป็นแกงกะทิที่มีรสชาติเค็ม หวาน และมีความเผ็ดเล็กๆ โดยในแกงจะมีเนื้อสัตว์ เช่น หมู ไก่ หรือเนื้อวัว ที่ถูกเคี่ยวในน้ำกะทิผสมกับพริกแกง และปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป พร้อมเพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบมะกรูด ซึ่งทาง TasteAtlas ได้จัดให้ “พะแนง” เป็นแกงที่อร่อยเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในปี 2023 จึงการันตีได้เลยว่าพะแนงนั้นเป็นหนึ่งในเมนูที่เหมาะกับนักชิมทั่วโลกเลยทีเดียว

วัตถุดิบ

  1. เนื้อไก่ 400 กรัม 
  2. กะทิ 500 มิลลิลิตร
  3. พริกแกง 150 กรัม
  4. มะเขือพวง 100 กรัม
  5. ใบมะกรูดฉีก และใบมะกรูดซอย 
  6. พริกชี้ฟ้า
  7. น้ำตาลปี๊ป 1.5 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีการทำ

  1. นำกะทิปริมาณ 200 มิลลิลิตรลงไปผัดจนกะทิแตกมัน จากนั้นให้ใส่พริกแกงแล้วผัดให้เข้ากัน
  2. จากนั้นนำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปผัดให้สุก แล้วเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไปเพื่อต้มให้แกงเดือด
  3. ใส่มะเขือพวง และใบมะกรูดฉีกลงไป เมื่อมะเขือสุกให้เริ่มปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊ปตามรสชาติที่ต้องการ
  4. จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมตักเสิร์ฟ และตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย และพริกชี้ฟ้าซอย 

2. มัสมั่น – Massaman Curry

เมนูอาหารไทยที่มีความโดดเด่นในด้านความหอมหวานมากที่สุดคือ “แกงมัสมั่น” เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ เนื้อสัตว์ มันฝรั่ง และเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม จึงทำให้รสชาติของแกงออกมาอร่อยเข้มข้น พร้อมกับมีกลิ่นหอม โดยแกงมัสมั่นนิยมรับประทานคู่กับข้าวสวย และอาจาดเครื่องเคียงแตงกวาดอง เพื่อให้ได้รสชาติของความเป็นไทยแท้ นอกจากนี้ในปี 2021 แกงมัสมั่นยังถูกจัดให้เป็นแกงที่ดีที่สุดแห่งปีโดย CNN Travel อีกด้วย

วัตถุดิบ

  1. เนื้อสัตว์
  2. มันฝรั่ง 500 กรัม
  3. พริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
  4. ลูกกระวานคั่ว 5 ลูก
  5. หอมใหญ่ 200 กรัม 
  6. ถั่วลิสงคั่ว 100 กรัม
  7. หางกะทิ 500 มิลลิลิตร
  8. หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
  9. น้ำมะขามเปียก 100 กรัม
  10. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  11. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  12. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ 

วิธีการทำ

  1. นำเนื้อสัตว์ไปผัดกับกะทิ และเกลือป่น เพื่อเป็นการตุ๋นเนื้อให้ได้ความนุ่มที่ต้องการ 
  2. ตั้งหม้อแล้วใส่หัวกะทิลงไปในหม้อ รอจนหัวกะทิเดือดจึงใส่พริกแกงลงไป เพื่อผัดพริกแกงให้เข้ากับกะทิ
  3. ใส่เนื้อสัตว์ที่ผ่านการผัดกับกะทิมาก่อนแล้วลงไปผัดกับพริกแกงให้ได้ที่
  4. ใส่มันเทศ หอมใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว และลูกกระวานลงไปเพื่อผัดให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ 
  5. ใส่น้ำกะทิที่ใช้ตุ๋นเนื้อสัตว์ลงไป ตามด้วยหางกะทิ และต้มจนส่วนผสมทั้งหมดเดือด
  6. เริ่มปรุงด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และเกลือป่น 
  7. คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และตุ๋นแกงทิ้งไว้ประมาณ 30 – 40 นาที 
  8. เมื่อรอตุ๋นจนครบเวลาแล้วให้ใส่หัวกะทิลงไป และรอแกงเดือดอีกรอบ จึงจะพร้อมเสิร์ฟ

3. แกงเขียวหวาน – Green Curry

“แกงเขียวหวาน” คืออีกหนึ่งในรายการอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นเมนูอาหารไทยที่ฝรั่งชอบ รวมไปถึงชาวเอเชียหลายๆ คนก็ชื่นชอบ เพราะมีรสชาติอร่อย มีความเผ็ด หวาน และเค็ม ซึ่งนับได้ว่าครบรสชาติเลยทีเดียว โดยแกงเขียวหวานมักนิยมทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานคู่กับขนมจีนก็ได้เช่นกัน 

วัตถุดิบ

  1. พริกแกงเขียวหวาน
  2. หัวกะทิ 250 กรัม
  3. เนื้อไก่ 500 กรัม 
  4. ใบมะกรูดฉีก
  5. หางกะทิ 500 กรัม
  6. น้ำตาลทรายแดง 10 กรัม
  7. น้ำปลา 25 กรัม
  8. มะเขือพวง 50 กรัม
  9. มะเขือเปราะ 200 กรัม
  10. ใบโหระพา 25 กรัม
  11. พริกชี้ฟ้าแดงหั่น 10 กรัม 

วิธีการทำ

  1. ตั้งหม้อ หรือกระทะด้วยไฟแรงปานกลาง จากนั้นเคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันแล้วจึงใส่พริกแกงตามลงไป 
  2. เมื่อผัดพริกแกง และกะทิจนสุกเข้ากันแล้วจึงนำเนื้อไก่ และใบมะกรูดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป 
  3. เมื่อผัดเนื้อไก่ไปสักพักจึงเทหางกะทิลงไป
  4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง น้ำปลา มะเขือพวง มะเขือเปราะ ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าลงไป 
  5. เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่แล้วจึงนำมาตักเสิร์ฟใส่ชามได้เลย

ข้าวซอย – Khao Soi

4. ข้าวซอย – Khao Soi

เมนูอาหารไทยอีกเมนูที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแกงที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือ “ข้าวซอย” ซึ่งได้อันดับที่ 2 มา เนื่องจากข้าวซอยเป็นแกงที่มีส่วนผสมของกะทิ มีรสชาติเผ็ดนิดๆ อีกทั้งภายในซุปยังมีพร้อมทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และคาร์โบไฮเดรตจากเส้นบะหมี่ไข่ นอกจากนี้ ข้าวซอยยังทานกับเครื่องเคียงอย่างผักกาดดอง มะนาวสด หอมแดง และพริกเพื่อเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย  

วัตถุดิบ

  1. น่องไก่
  2. น้ำพริกข้าวซอย 100 กรัม
  3. กะทิ 500 กรัม
  4. เส้นข้าวซอย หรือเส้นหมี่ไข่อิสลาม 100 กรัม
  5. น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง 
  6. เกลือ 2 ช้อนชา 
  7. น้ำตาลมะพร้าว 1.5 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  9. พริกผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำสะอาด 1.5 ลิตร 
  11. หอมแขกซอย
  12. ผักกาดดอง
  13. ต้นหอม และผักชี

วิธีการทำ

  1. ใส่กะทิในกระทะหรือหม้อที่ตั้งไว้ แล้วตามด้วยเครื่องแกง จากนั้นผัดให้เข้ากันและเคี่ยวจนกะทิแตกมัน
  2. ใส่น่องไก่ที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นใส่กะทิที่เตรียมไว้ให้หมด แล้วเคี่ยวจนไก่เปื่อย เป็นเวลาประมาณ 30 – 40 นาที จากนั้นให้ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ 
  3. นำเส้นข้าวซอยไปลวกจนได้ที่ แล้วตักใส่ชามที่เตรียมไว้ 
  4. เมื่อน้ำข้าวซอยเดือดจนได้ที่แล้วให้เทใส่เส้นที่เราลวกเอาไว้ และเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่เราเตรียมไว้ ได้แก่ ต้นหอม ผักชี หอมแดง ผักกาดดอง พริกผัด 

5. แกงส้ม – Kaeng Som

“แกงส้ม” เป็นหนึ่งในเมนูที่มีความน่ารับประทานไม่แพ้กับเมนูอื่นๆ เลย โดยแกงส้มจะเน้นไปที่ผักเป็นวัตถุดิบหลัก มีรสชาติเปรี้ยว และตามด้วยรสชาติเผ็ด และเค็มเล็กน้อย บอกได้เลยว่าแกงส้มเป็นแกงที่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ต่างชอบรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มกุ้ง หรือแกงส้มชะอมก็เป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน 

วัตถุดิบ

  1. พริกแกงส้ม ½ ถ้วย
  2. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  3. เกลือ ⅓ ช้อนชา
  4. น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ตะไคร้ 2 ต้น
  6. ปลานิล 1 ตัว
  7. กุ้งสด 10 ตัว
  8. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย 
  9. น้ำซุป 1.5 ลิตร
  10. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำเปล่า 
  12. กระดูกหมู 1 กิโลกรัม (สำหรับต้มน้ำซุป)
  13. ซุปก้อนรสหมู 1 ก้อน 
  14. รากคื่นฉ่าย 2-3 ราก

วิธีการทำ

  1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ และตะไคร้ลงไป จากนั้นจึงนำปลาไปต้มเพื่อดับความคาว เมื่อปลาสุกก็นำเอามาแกะเลือกเอาเฉพาะเนื้อปลาออกมา
  2. นำเนื้อปลาลงไปตำในครกให้ขึ้นฟู แล้วจึงใส่พริกแกงส้มลงไปตำให้เข้ากับเนื้อปลา
  3. หากทำแกงส้มชะอมทอด ให้ทอดชะอมกับไข่ก่อนเริ่มต้มน้ำแกง หรือหากใส่เนื้อสัตว์อื่นๆ ให้เตรียมเนื้อสัตว์เอาไว้ เช่น กุ้ง หรืออาจใส่ผักเพิ่มได้ตามชอบ
  4. ต้มน้ำซุปให้เดือดแล้วนำพริกแกงที่ตำกับเนื้อปลาเอาไว้ลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมเอาไว้ เมื่อเดือดแล้วจึงนำเนื้อสัตว์ หรือไข่ชะอมลงไป รอจนเนื้อสัตว์สุก ปิดไฟ และตักเสิร์ฟได้เลย

6. ไข่พะโล้ –  Hard-Boiled Eggs in the Sweet Gravy

เมนูอาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน คือ “ไข่พะโล้” เพราะเป็นเมนูที่มีรสชาติกลมกล่อมด้วยรสหวาน และเค็มเล็กน้อย เป็นเมนูที่ทานได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือมื้อเย็น บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ยอดนิยมคู่คนไทยจริงๆ 

วัตถุดิบ

  1. ไข่ไก่
  2. ปีกกลางไก่ หรือน่องไก่
  3. ผงพะโล้ 
  4. อบเชย
  5. กระเทียม
  6. โป๊ยกั๊ก
  7. รากผักชี
  8. ซอสถั่วเหลือง
  9. น้ำตาลปี๊ก
  10. ผักชี 
  11. น้ำมันพืช
  12. พริกไทย
  13. น้ำมันหอย
  14. ซีอิ๊วดำ

วิธีการทำ

  1. นำไข่ไก่ไปต้มให้สุก แล้วน้ำมาปอกเปลือกเตรียมเอาไว้
  2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วนำไปผัดในน้ำมัน โดยใช้น้ำมันในการผัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อผัดจนหอมให้ใส่ผงพะโล้ อบเชย และโป๊ยกั๊กลงไป
  3. หลังจากนั้นจึงใส่ซีอิ๊วดำ และเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป รอจนน้ำตาลปี๊ปละลายจึงใส่ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันหอยตามไป
  4. นำปีกไก่ หรือน่องไก่ที่เตรียมไว้มาใส่ และเติมน้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อไก่ จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไป 
  5. ต้มจนไก่สุก และรอให้น้ำเดือด โดยแนะนำว่าไข่พะโล้ควรต้มทิ้งไว้นานๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น และสีสันที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น และเมื่อตักเสิร์ฟให้โรยด้วยผักชีเพื่อเพิ่มสีสันให้อาหาร 

ผัดไทยกุ้งสด – Pad Thai with Prawns

7. ผัดไทยกุ้งสด – Pad Thai with Prawns

“ผัดไทยกุ้งสด” เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารไทยที่ฝรั่งชอบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้คนจากทั่วโลกล้วนรู้จักผัดไทยว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารขึ้นชื่อของประเทศไทยอีกด้วย เนื่องจากมีรสชาติหวาน และเค็ม รับประทานได้ง่าย อีกทั้งยังนิยมใส่กุ้ง ห่อไข่ หรือมีผักเคียง จึงทำให้เป็นเมนูอาหารไทยที่มีสารอาหารครบ และรสชาติอร่อย ถูกใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง การทานผัดไทยนั้นสามารถทานพร้อมผักเครื่องเคียงอย่างใบกุยช่าย หัวปลี ถั่วงอก มะนาวฝาน พร้อมเครื่องปรุง เช่น พริกป่น น้ำตาลทราย น้ำปลา มะนาวซีก และถั่วลิสงคั่วบด ก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อยให้ลงตัวไปอีก

วัตถุดิบ

วัตถุดิบสำหรับการทำซอสผัดไทย 

  1. หอมแดงซอย 100 กรัม 
  2. น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง 
  3. พริกชี้ฟ้าแห้ง พร้อมแกะเมล็ดออก
  4. น้ำเปล่า 240 กรัม
  5. น้ำตาลมะพร้าว 450 กรัม
  6. น้ำมะขามเปียก 240 กรัม
  7. น้ำปลา 80 กรัม 

 

วัตถุดิบสำหรับทำผัดไทย

  1. น้ำซอสผัดไทย
  2. น้ำมันหอมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. กุ้งสด
  5. ไชโป๊วหวานสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เต้าหู้เหลืองหั่นเต๋า 50 กรัม
  7. กุ้งแห้งฝอย 
  8. เส้นจันท์แห้ง
  9. น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง 
  10. ใบกุยช่ายหั่นท่อน

วิธีการทำ

วิธีการทำซอสผัดไทย

  1. คั้นน้ำมะขามเปียก
  2. นำพริกชี้ฟ้าที่แกะเมล็ดออกแล้วมาแช่น้ำจนนิ่ม
  3. ตั้งไฟที่กระทะพร้อมใส่น้ำมันเพื่อเจียวหอมแดงให้เหลืองกรอบ และพักทิ้งไว้
  4. เมื่อพริกชี้ฟ้านิ่มแล้วจึงนำมาปั่น และเทพริกที่ปั่นพร้อมน้ำลงไปในกระทะ ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน เพื่อเคี่ยวให้เดือด
  5. หลังจากนั้นจึงปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วเคี่ยวประมาณ 20 นาทีด้วยไฟอ่อน ให้น้ำซอสมีความข้นเล็กน้อย จากนั้นจึงใส่หอมแดงเจียวลงไปเคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที 

 

วิธีการทำผัดไทย

  1. แช่เส้นจันท์ประมาณ 10 นาที 
  2. ตั้งกระทะ แล้วจากนั้นจึงใส่น้ำมันจากหอมเจียว ตามด้วยกุ้งลงไปผัดให้สุก และนำกุ้งไปพัก
  3. ต่อมาให้ใส่หัวไชโป๊ว เต้าหู้เหลือง ผัดให้สุกแล้วจึงใส่กุ้งฝอยตามลงไปผัดด้วยกัน
  4. นำเส้นจันท์ที่แช่น้ำแล้วลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย จากนั้นผัดให้เกือบแห้งแล้วจึงใส่น้ำซอสตามลงไป 
  5. นำไข่ไก่มายีให้แตก จากนั้นจึงนำมาผัดคลุกกับเส้น แล้วตามด้วยใส่ผักที่เตรียมไว้ หรืออาจปรุงเล็กน้อยด้วยพริกป่น 

8. ต้มยำกุ้ง – Tom Yum Goong

รายการอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกหนึ่งเมนูคือ “ต้มยำกุ้ง” เมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้ชาวต่างชาติหลายๆ คนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ในเมนูที่น่าลองทาน เพราะเป็นเมนูที่โด่งดัง และเป็นภาพจำของอาหารไทยเลย อีกทั้งยังเป็นเมนูอาหารไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างเด่นชัด ด้วยรสชาติที่เผ็ด เปรี้ยว เค็ม และมีความกลมกล่อมของน้ำซุป อีกทั้งยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยอีกด้วย 

วัตถุดิบ

  1. เนื้อสัตว์ตามชอบ เช่น กุ้ง หมึก ปลา หรือเนื้อไก่ เป็นต้น
  2. เห็ดฟาง 400 กรัม
  3. ข่า 40 กรัม
  4. ตะไคร้ 40 กรัม
  5. หอมแดง 40 กรัม
  6. ใบมะกรูด 5 กรัม
  7. รากผักชี
  8. ผักชีไทย 
  9. ผักชีฝรั่ง 10 กรัม
  10. พริกจินดา และพริกขี้หนูสวนโขลกละเอียด 30 กรัม 
  11. น้ำ 1 ลิตร
  12. หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
  13. เกลือ 1 ช้อนชา 
  14. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
  15. น้ำพริกเผา 2.5 ช้อนโต๊ะ
  16. น้ำมันพริกเผา 1.5 ช้อนโต๊ะ
  17. น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ 

วิธีการทำ

  1. นำผัก และสมุนไพรที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นจึงหั่นออกเป็นขนาดที่พอดี
  2. ตั้งน้ำในหม้อให้เดือด จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไป ตักออกให้เหลือแต่น้ำ แล้วจึงใส่เครื่องต้มยำลงไป รอให้น้ำเดือดจัดๆ เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงใส่เห็ดตามลงไปอีกที และรอให้เห็ดสุก
  3. ปรุงรสชาติด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำพริกเผา น้ำมันพริกเผา และคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  4. จากนั้นจึงนำเนื้อสัตว์มาใส่โดยไม่ต้องคน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นคาว
  5. เมื่อน้ำเดือดจัดอีกครั้งให้ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากันเล็กน้อย 
  6. จากนั้นจึงใส่พริกที่โขลกเอาไว้ลงไป และใส่ผักชีไทย ผักชีฝรั่งตาม จากนั้นจึงปิดไฟ แล้วใส่น้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟได้

ปูผัดผงกะหรี่ – Fried Crab in Yellow Curry

9. ปูผัดผงกะหรี่ –  Fried Crab in Yellow Curry

“ปูผัดผงกะหรี่”  เป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่ชาวต่างชาติ เนื่องด้วยมีรสชาติที่ออกหวานๆ เค็มๆ ด้วยส่วนผสมของไข่ไก่ และนมข้นจืด จึงทำให้มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ยิ่งเมื่อได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งทำให้เพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี

วัตถุดิบ

  1. ปูม้า 800 – 1,000 กรัม
  2. กระเทียม
  3. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  4. หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  5. คื่นฉ่าย 1 ต้น 
  6. พริกชี้ฟ้าแดง 
  7. ต้นหอม
  8. ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
  9. นมข้นจืด 150 มิลลิลิตร
  10. น้ำเปล่า
  11. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
  12. น้ำมันพริกเผา
  13. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  15. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  16. พริกไทยป่น 

วิธีการทำ

  1. เตรียมชามผสมสำหรับทำน้ำซอสผงกะหรี่ โดยเริ่มจากตอกไข่ลงไปแล้วตีให้แตก เติมน้ำพริกเผา และเครื่องปรุง ได้แก่ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำปลา จากนั้นใส่นมข้นจืดตามลงไป แล้วตีผสมให้เข้ากัน 
  2. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปแล้วตามด้วยกระเทียมลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้นจึงใส่ผงกะหรี่ตามลงไปผัด และใส่พริกไทยพร้อมผัดให้เข้ากัน 
  3. ใส่น้ำซอสที่เตรียมไว้ลงไปแล้ว ตามด้วยปูม้า หอมใหญ่ พริกแดงซอย แล้วปิดผาโดยที่ไม่ต้องคน เมื่อเดือดแล้วจึงใส่ไข่ไก่ลงไปแล้วจึงค่อยๆ คน 
  4. เริ่มผัดจนปูเปลี่ยนเป็นสีส้ม จากนั้นจึงค่อยๆ ปรุงรสเพิ่มได้ตามใจชอบก่อนจะปิดไฟ 
  5. เมื่อปิดไฟแล้วให้ใส่หอมซอย และคื่นฉ่ายลงไปผัดให้โดนความร้อนเล็กน้อย จากนั้นจึงตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

สรุป

เมนูอาหารไทยเป็นที่นิยม ถูกใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาตินั้นมีหลากหลายเมนูเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละเมนูนั้นมีความโดดเด่นในการนำวัตถุดิบมาปรุงให้มีรสชาติ และหน้าตาที่น่ารับประทาน อีกทั้งยังสามารถดึงความเป็นอัตลักษณ์ของอาหารไทยออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สมุนไพร เครื่องเทศ หรือเนื้อสัตว์ ที่สามารถนำมาผสมปรุงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว จึงทำให้อาหารไทยเป็นอาหารที่คนไทยทานเองก็อร่อย คนต่างชาติทานแล้วก็ติดใจ 

หากในวันพักผ่อนที่ดีสักวันหนึ่งคุณต้องการที่จะพักในที่พักที่มีบรรยากาศดีๆ พร้อมด้วยการรับประทานอาหารที่อร่อย Rancho Charnvee Resort & Country Club มีบริการทั้งที่พักที่สวยงาม พร้อมกับรายการอาหารไทยที่หลากหลายพร้อมให้บริการ ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะเป็นการพักผ่อนที่ทำให้คุณได้ผ่อนคลายควบคู่ไปกับการเติมพลังด้วยอาหารอร่อยๆ ได้อย่างแน่นอน